GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
ผลการค้นหา : "RTX 3060"
GALAX เปิดตัว RTX 3060 Metaltop Mini ที่มาในขนาดเล็ก 1 พัดลม
เรียกได้ว่าเป็นข่าวดีสำหรับเกมเมอร์ชาว PC ที่กำลังมีแผนจะประกอบเครื่องที่มีขนาดไม่ใหญ่มากไซซ์ ITX เครื่องขาว เมื่อล่าสุด Galax ได้ทำการเปิดตัวการจอ RTX 3060 Metaltop Mini ที่มีขนาดเพียงแค่ 1 พัดลม และให้ระบายอากาศออกทางข้างหลังเหมือนกับการ์ดจอโมเดลเก่าๆ สิ่งที่น่าตกใจคือ  RTX 3060 Metaltop Mini นับเป็นการ์ดจอรุ่นแรกที่ใช้การระบายความร้อนแบบ 1 พัดลมในเจน Ampere Series (RTX 30 Series) โดยใช้ชิป GA106-302 GPU หรือรุ่น LHR ในการผลิต เพื่อให้ไม่เป็นเป้าหมายของเหล่านักขุด Crypto แน่นอนว่าไม่ได้มีการลดความแรงของสเปกดั้งเดิมที่เราเห็นใน RTX 3060 ลงเลย เพียงแต่ในส่วนของการระบายความร้อน อาจจำเป็นต้องทดสอบกันอีกทีนอกจาก Galax แล้ว ดูเหมือนทาง IGame จากประเทศจีนเอง ก็กำลังจะมีการวางขายการ์ดจอ RTX 3060 แบบ 1 พัดลมเช่นเดียวกัน อย่างที่ผมยืนยันไปในช่วงแรกของข่าว ว่าการ์ดจอเล็กๆ แบบนี้เป็นของชอบสำหรับนักประกอบสาย ITX ที่มีพื้นที่ภายในเครื่องจำกัดอย่างแน่นอน ในส่วนของราคาเชื่อว่าจะถูกกว่า RTX 3060 ที่เห็นในตลาดตอนนี้ แต่เท่าไหร่ก็ต้องรอดูกันCredit : VideoCardZ
25 Nov 2021
Nvidia อาจใส่ชิปป้องกันขุด BitCoin ในการ์ดจอ RTX ทั้งหมดที่จะผลิตหลังจากนี้
นับเป็นข่าวดีสำหรับเหล่าเกมเมอร์เมื่อมีการยืนยันว่า RTX 3060 จะถูกลดประสิทธิภาพของการ์ดลง หาก Bios ตรวจพบว่าผู้ใช้ง่ายเอาการ์ดไปขุด BitCoin แต่จะมีการออกการ์ดสำหรับขุด BitCoin โดยเฉพาะออกมาให้แทน ซึ่งวันนี้ก็มีอีกหนึ่งข่าวดีสำหรับเกมเมอร์ชาว PC เพราะการ์ดทุกรุ่นที่ถูกผลิตหลังจากนี้ อาจมีการใส่ชิปป้องกันการขุดแบบเดียวกับ 3060 ทั้งหมดครับ คำว่าผลิตหลังจากนี้หมายถึงรวม 3060Ti, 3070, 3080 และ 3090 ด้วย ซึ่งเรื่องนี้ถูกหยิบขึ้นมาพูดโดยผู้ใช้งาน Twitter ที่ชื่อว่า kopite7kimi โดย RedGamingTech เองก็ได้มาตอบ Twitter ของเขาว่าได้ยินสิ่งที่คล้ายๆ กันมา ทำให้มีความเป็นไปได้ที่เรื่องนี้จะเป็นความจริง การที่ Nvidia จะใส่ชิปนี้เข้ามาในการ์ดจอทุกรุ่น จะเท่ากับว่าการ์ดจอสำหรับเล่นเกมทั้งหมด ที่ผลิตออกมาหลังจากนี้ อาจไม่ได้มีราคาสูงเท่ากับการ์ดที่มีในตลาดตอนนี้ เนื่องจากมันไม่สามารถเอาไปขุด BitCoin ได้ แต่แน่นอนว่าเรื่องนี้ยังไม่มีการยืนยันโดย Nvidia ดังนั้นต้องรอดูกันต่อไปว่าจะเป็นเรื่องจริงแค่ไหนครับ Credit: https://www.notebookcheck.net/NVIDIA-may-re-release-the...
22 Feb 2021
Nvidia อาจใส่ชิปป้องกันขุด BitCoin ในการ์ดจอ RTX ทั้งหมดที่จะผลิตหลังจากนี้
นับเป็นข่าวดีสำหรับเหล่าเกมเมอร์เมื่อมีการยืนยันว่า RTX 3060 จะถูกลดประสิทธิภาพของการ์ดลง หาก Bios ตรวจพบว่าผู้ใช้ง่ายเอาการ์ดไปขุด BitCoin แต่จะมีการออกการ์ดสำหรับขุด BitCoin โดยเฉพาะออกมาให้แทน ซึ่งวันนี้ก็มีอีกหนึ่งข่าวดีสำหรับเกมเมอร์ชาว PC เพราะการ์ดทุกรุ่นที่ถูกผลิตหลังจากนี้ อาจมีการใส่ชิปป้องกันการขุดแบบเดียวกับ 3060 ทั้งหมดครับ คำว่าผลิตหลังจากนี้หมายถึงรวม 3060Ti, 3070, 3080 และ 3090 ด้วย ซึ่งเรื่องนี้ถูกหยิบขึ้นมาพูดโดยผู้ใช้งาน Twitter ที่ชื่อว่า kopite7kimi โดย RedGamingTech เองก็ได้มาตอบ Twitter ของเขาว่าได้ยินสิ่งที่คล้ายๆ กันมา ทำให้มีความเป็นไปได้ที่เรื่องนี้จะเป็นความจริง การที่ Nvidia จะใส่ชิปนี้เข้ามาในการ์ดจอทุกรุ่น จะเท่ากับว่าการ์ดจอสำหรับเล่นเกมทั้งหมด ที่ผลิตออกมาหลังจากนี้ อาจไม่ได้มีราคาสูงเท่ากับการ์ดที่มีในตลาดตอนนี้ เนื่องจากมันไม่สามารถเอาไปขุด BitCoin ได้ แต่แน่นอนว่าเรื่องนี้ยังไม่มีการยืนยันโดย Nvidia ดังนั้นต้องรอดูกันต่อไปว่าจะเป็นเรื่องจริงแค่ไหนครับ Credit: https://www.notebookcheck.net/NVIDIA-may-re-release-the...
22 Feb 2021
RTX 3060 จะขุด BitCoin ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ แต่จะมีรุ่นสำหรับขุดเฉพาะตามมา
ถือเป็นข่าวดีสำหรับเกมเมอร์ชาว PC ไปครับ เมื่อ Nvidia ประกาศออกมาว่า Driver ของ Geforce RTX 3060 ที่กำลังวางขาย จะทำให้การ์ดมีประสิทธิภาพในการขุด BitCoin ลดลง 50% เพื่อให้ตัวการ์ดถูกซื้อไปใช้งาน หรือเล่นเกมจริงๆ เท่านั้น! อย่างไรก็ตาม Driver ตัวใหม่นี้ดูเหมือนจะส่งผลกับ RTX 3060 เท่านั้น สำหรับการ์ดจอรุ่นพี่อย่าง 3060Ti, 3070, 3080 และ 3090 จะยังคงสามารถใช้ขุด BitCoin ได้เหมือนเดิมตามปกติ (ซึ่งอาจทำให้ราคาของทั้ง 4 รุ่นเพิ่มขึ้นไปอีก) ครับ แต่ในขณะเดียวกันก็มีอีกหนึ่งข่าวที่อาจจะเป็นข่าวดี คือทาง Nvidia ได้มีการประกาศว่าหลังจากนี้จะออกการ์ดจอรุ่นพิเศษสำหรับขุด Cryptocurrency ออกมาให้โดยเฉพาะ ซึ่งถ้าหากว่าการ์ดใบนี้ถูกวางจำหน่ายแล้ว เป็นไปได้ว่าการ์ดจอสำหรับเล่นเกมเอง ก็อาจจะลดราคาลงมาให้เราสามารถหาซื้อมาใช้ได้ แต่ก็คงต้องรอดูกันต่อไปครับ Credit: https://www.pcgamer.com/nvidia-not-limiting-gpus-already.../
19 Feb 2021
RTX 3060 จะขุด BitCoin ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ แต่จะมีรุ่นสำหรับขุดเฉพาะตามมา
ถือเป็นข่าวดีสำหรับเกมเมอร์ชาว PC ไปครับ เมื่อ Nvidia ประกาศออกมาว่า Driver ของ Geforce RTX 3060 ที่กำลังวางขาย จะทำให้การ์ดมีประสิทธิภาพในการขุด BitCoin ลดลง 50% เพื่อให้ตัวการ์ดถูกซื้อไปใช้งาน หรือเล่นเกมจริงๆ เท่านั้น! อย่างไรก็ตาม Driver ตัวใหม่นี้ดูเหมือนจะส่งผลกับ RTX 3060 เท่านั้น สำหรับการ์ดจอรุ่นพี่อย่าง 3060Ti, 3070, 3080 และ 3090 จะยังคงสามารถใช้ขุด BitCoin ได้เหมือนเดิมตามปกติ (ซึ่งอาจทำให้ราคาของทั้ง 4 รุ่นเพิ่มขึ้นไปอีก) ครับ แต่ในขณะเดียวกันก็มีอีกหนึ่งข่าวที่อาจจะเป็นข่าวดี คือทาง Nvidia ได้มีการประกาศว่าหลังจากนี้จะออกการ์ดจอรุ่นพิเศษสำหรับขุด Cryptocurrency ออกมาให้โดยเฉพาะ ซึ่งถ้าหากว่าการ์ดใบนี้ถูกวางจำหน่ายแล้ว เป็นไปได้ว่าการ์ดจอสำหรับเล่นเกมเอง ก็อาจจะลดราคาลงมาให้เราสามารถหาซื้อมาใช้ได้ แต่ก็คงต้องรอดูกันต่อไปครับ Credit: https://www.pcgamer.com/nvidia-not-limiting-gpus-already.../
19 Feb 2021
จัดอันดับการ์ดจอ PC ที่คุ้มค่ากับการซื้อมาเล่นเกมมากที่สุดในตอนนี้!
ด้วยความที่ตอนนี้วงการเกมกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ ที่ภาพ / กราฟิก ถูกยกระดับให้มีความสวยงามสมจริงมากขึ้น (ยุคนี้ต้อง 4K / 60 FPS) เชื่อว่าผู้เล่นบนเครื่อง PC ก็กำลังสนใจที่จะเปลี่ยนไปใช้การ์ดจ่อซีรีส์ใหม่กันอยู่ไม่มากก็น้อย ส่งผลให้ในปัจจุบันการแข่งขันในตลาดของ Hardware เป็นไปอย่างดุเดือดมากๆ ระหว่าง AMD กับ Nvidia  แม้ว่าการ์ดจอของทั้ง 2 ค่ายจะถือว่าแรงมากๆ และมีความแตกต่างกันไม่มาก แต่เชื่อว่าเหล่า PC เกมเมอร์ก็ยังอยากได้การ์ดจอดีที่สุด ในราคาดีที่สุดสำหรับตัวเองอยู่ดี ส่งผลให้หลายคนยังเลือกไม่ได้ว่าจะซื้อการ์ดจอรุ่นไหน ของค่ายไหนถึงจะเรียกได้ว่าดีที่สุด ทางเรา GameFever Th จึงได้จัดอันดับรายชื่อการ์ดจอที่คุ้มค่าจะซื้อมาเล่นเกมที่สุดมาให้ในบทความนี้ครับ ก่อนที่จะไปเริ่มดูกันว่าการ์ดจอตัวไหนบ้าง ขอออกตัวก่อนว่าในบทความนี้เราไม่ได้พูดถึงเรื่องประสิทธิภาพเพียงอย่างเดียว แต่ยังนำเอาเรื่องของราคา รวมถึงความคุ้มค่าที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งในเกณฑ์การให้คะแนนด้วย แน่นอนว่าจะมีการเขียนบอกข้อดี รวมถึงเหตุผลของการ์ดจอแต่ละอันดับด้วย ถ้าเพื่อนๆ พร้อมแล้ว มาเริ่มกันเลยครับ! อันดับ 1 Nvidia GeForce RTX 3080 CUDA cores: 8,704 Base clock: 1,440MHz Boost clock: 1,710MHz TFLOPs: 29.76 Memory: 10GB GDDR6X Memory clock: 19 GT/s Memory bandwidth: 760GB/s 3080 คือการ์ดจอที่มีประสิทธิภาพสูงที่สามารถเล่นเกมแบบ 4K / 60 FPS โดยปรับ Setting สูงๆ ได้ แถมยังมาในราคาเพียงแค่ 25,000 - 35,000 เท่านั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่การ์ดตัวนี้เป็นรุ่นที่น่าซื้อมากที่สุดแล้วในตอนนี้ ยิ่งรุ่นนี้มาพร้อมกับหัวคำนวณ Ray Tracing ที่ดีกว่าเจนแรกมากด้วยแล้ว ยิ่งควรค่าแก่การหามาเปลี่ยนมากขึ้นไปอีกครับ น่าเสียดายที่ด้วยความยอดเยี่ยมของตัวการ์ด เลยทำให้หาซื้อได้ยากมากๆ เช่นกัน และด้วยความที่หาซื้อยาก เลยทำให้ราคาของตัวการ์ดเพิ่มสูงขึ้นหลายพันบาทเลยในตอนนี้ นอกจากนี้ตัวการ์ด RTX 3080 ยังกินไฟค่อนข้างมาก การมี Power Supply กำลังไฟ 850W จึงเป็นอีกหนึ่งข้อจำกัดที่เราอาจต้องคำนึงหากจะหาซื้อการ์ดตัวนี้มาใช้ครับ อันดับ 2 AMD Radeon RX 6800 XT RDNA cores: 4,608 Base clock: 1,825MHz Boost clock: 2,250MHz TFLOPs: 20.74 Memory: 16GB GDDR6 Memory clock: 16 GT/s Memory bandwidth: 512GB/s ถ้าเอาแค่เรื่องความแรงของตัวประมวลผลของการ์ดเพียงอย่างเดียว RX 6800 XT ถือได้ว่าเป็นการ์ดที่แรงกว่า RTX 3080 ในราคาที่ถูกกว่าประมาณ 1,500 - 5,000 บาทครับ (ราคาอยู่แถวๆ 23,000 - 32,500 บาท) แถมยังเป็นการ์ดรุ่นที่มี Memory มากกว่าถึง 16 GB ด้วย ส่งผลให้การ์ดตัวนี้สามารถเล่นเกมแบบ 4K / 60 FPS ด้วย Setting สูงๆ ได้แบบสบายๆ เช่นเดียวกัน น่าเสียดายที่เมื่อพูดถึงประสบการณ์เล่นเกมแล้ว เจ้า RX 6800 XT จะสามารถดัน FPS ได้น้อยกว่า RTX 3080 เมื่อเปิดใช้งาน Ray-Tracing นอกจากนี้การ์ดทางฝั่งของ Nvidia ยังสามารถใช้งานฟังก์ชันที่ชื่อว่า DLSS 2.0 เพื่อเพิ่ม FPS ที่ได้ รวมถึงคุณภาพของกราฟิกได้ด้วย ส่งผลให้การยอมจ่ายเพิ่มอีกเล็กน้อย เพื่อเทคโนโลยีเหล่านี้ เป็นอะไรที่ดูคุ้มค่ามากกว่าครับ อันดับ 3 Nvidia GeForce RTX 3060Ti CUDA cores: 4,864 Base clock: 1,410MHz  Boost clock: 1,665MHz TFLOPs: 16.20 Memory: 8GB GDDR6 Memory clock: 14 GT/s Memory bandwidth: 448GB/s น้องเล็กสุดของตระกูล RTX 30 Series ตัวการ์ดมาพร้อมกับประสิทธิภาพระดับเดียวกับ RTX 2080 Super แต่มีหัว Ray-Tracing ที่ดีกว่า และราคาเพียงแค่ 13,000 - 19,000 บาทเท่านั้น ด้วยประสิทธิภาพที่ได้ กับราคาที่ต้องจ่าย เลยทำให้เจ้าการ์ดน้องเล็กใบนี้ได้อันดับ 3 ไปในลิสต์นี้ครับ แม้จะไม่สามารถเล่นเกมแบบ 4K / 60 FPS ได้ใน Setting สูงๆ เหมือนกับพี่ๆ ในซีรีส์เดียวกัน แต่ถ้าหากเพื่อนๆ ไม่ได้มีงบมากมายในการประกอบ PC หนึ่งเครื่องแล้วละก็ RTX 3060Ti คงเรียกได้ว่าเป็นตัวเลือกดีที่สุดในตอนนี้ครับ แต่น่าเสียดายที่อาจหาของได้ยากสักหน่อยช่วงนี้ อันดับ 4 Nvidia GeForce RTX 3070 CUDA cores: 5,888 Base clock: 1,500MHz Boost clock: 1,725MHz  TFLOPs: 20.37 Memory: 8GB GDDR6 Memory clock: 14 GT/s Memory bandwidth: 448GB/s พี่คนรองใน RTX 30 Series ที่มาพร้อมกับแกนประมวลผล RTX แบบใหม่ซึ่งดีกว่าเช่นกัน แต่ด้วยความที่ราคาของรุ่นนี้อยู่ที่ประมาณ 19,900 - 28,900 ซึ่งห่างไกลจาก RX 6800 XT ไม่มาก เลยทำให้เจ้า RTX 3070 ได้อันดับที่ 4 ไปอย่างน่าเสียดาย อย่างไรก็ตามถ้าหากไม่ได้ต้องการจะเล่นเกมด้วยความละเอียด 2K / 60 FPS รวมถึงเปิด Ray-Tracing ไปด้วย RTX 3070 ก็ยังถือได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีมากๆ ถ้าหากว่าเพื่อนๆ เป็นสาวกค่ายเขียว และต้องการการ์ดจอที่แรงพอสมควรในราคาช่วง 20 กลางๆ เจ้า 3070 คือตัวเลือกที่ดีมากครับ อันดับ 5 AMD Radeon RX 6900 XT RDNA cores: 5,120 Base clock: 1,825MHz Boost clock: 2,250MHz TFLOPs: 23.04 Memory: 16GB GDDR6 Memory clock: 16 GT/s Memory bandwidth: 512GB/s คงสามารถพูดได้ว่านี้คือการ์ดที่แรงมากที่สุดของทางฝั่งค่ายแดงแล้วในตอนนี้ ด้วยความที่แรงเกือบเทียบเท่ากับ RTX 3090 ซึ่งแรงที่สุดของทางฝั่งค่ายเขียวแต่มีราคาที่ถูกกว่าถึง หลายหมื่นบาท (ราคาอยู่ที่ประมาณ 32,000 - 42,000 บาท) จึงทำให้ การ์ดใบนี้อยู่ในอันดับที่ 5 ของรายชื่อครับ จริงอยู่ว่าการ์ดตัวนี้มีความแรงที่สูงมากๆ แถมยังมีราคาเริ่มต้นไม่ไกลจากราคาสูงสุดของ RTX 3080 มากนัก แต่ถ้าหากเพื่อนๆ จะซื้อมาเพื่อเล่นเกมระดับ 4K / 60 FPS แล้ว ด้วยความที่ทาง Nvidia มีหัว Ray-Tracing กับเทคโนโลยี DLSS อยู่ จึงยังทำให้ RTX 3080 มีภาษีที่ดีมากกว่าหากจะซื้อมาเพื่อเล่นเกมครับ อันดับ 6 Nvidia GeForce RTX 3090 CUDA cores: 10,496 Base clock: 1,395MHz Boost clock: 1,695MHz TFLOPs: 35.68 Memory: 24GB GDDR6X Memory clock: 19.5 GT/s Memory bandwidth: 935.8GB/s พี่ใหญ่ รวมถึงเป็นการ์ดจอรุ่นที่แรงสุดของโลกในตอนนี้ สามารถเล่นเกมได้ถึงความละเอียด 8K แต่ด้วยราคาที่แพงมากๆ (ประมาณ 55,000 - 65,000 บาท) บวกกับประสิทธิภาพที่แทบไม่ต่างจาก RTX 3080 เลยเมื่อเล่นเกมที่ความละเอียด 4K จึงทำให้การ์ดรุ่นนี้ดูไม่คุ้มกับเงินที่ต้องจ่ายเพิ่ม เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้ครับ แน่นอนว่าถ้าอยากไปให้สุดในเรื่องของความแรงกับการเล่นเกมบนจอ 8K ยังไงเพื่อนๆ ก็จำเป็นต้องซื้อ RTX 3090 ครับ แต่จอที่มีความละเอียดสูงถึง 8K ก็เรียกได้ว่ามีราคาที่แพงมากๆ เช่นกัน ไหนจะต้องจ่ายเงินซื้อ CPU แรงๆ เพื่อไม่ให้เกิดอาการคอขวดอีก ถ้าเพื่อนๆ ไม่ได้มีงบประกอบ PC ถึงหลักแสน การ์ดจอตัวนี้ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะหามาใช้งานเลยครับ แม้ว่าบทความนี้ของเราจะพูดถึงความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับเงินที่จ่าย แต่สุดท้ายแล้วเพื่อนๆ จะเลือกซื้อการ์ดจอตัวไหน ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะเอาไปใช้เล่นเกมแบบไหน หรือทำอะไรบ้างครับ แต่ในกรณีที่มีงบเพียงแค่ 50,000 บาท แล้วอยากได้การ์ดจอที่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายมากที่สุด ก็หวังว่าบทความนี้จะสามารถช่วยเพื่อนๆ ได้ ถ้าหากมีคำถามอะไรก็สามารถถามในคอมเม้นต์ของโพสต์นี้ได้เลย ถ้าตัวผมสามารถช่วยได้ ก็ยินดีจะช่วยไขข้อสงสัยให้กับเพื่อนๆ ครับ!
07 Jan 2021
รู้ก่อนซื้อ! ถ้าต้องเปลี่ยนการ์ดจอใหม่ตอนนี้เป็น NVIDIA GeForce RTX 30 Series จะเลือกรุ่นไหนดี
ปีนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปีในการเปลี่ยนแปลงของนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีเลยก็ว่าได้ เพราะอย่างที่เห็นเครื่องเกมคอนโซลรุ่นใหม่ก็เปิดตัวไปแล้ว ( แต่เมืองไทยยังไม่ประกาศวันวางจำหน่ายก็ตาม ) นอกจากนี้เกมเมอร์ฝั่ง PC ก็คงได้เห็นการเปิดตัวการ์ดจอ [GPU] ของทั้งค่ายเขียว NVIDIA และ ค่ายแดง AMD ในซีรีส์ใหม่กันไปแล้วเรียกว่ากระแสตอบรับดีทั้งสองค่ายเลย แต่เหมือนปีนี้จะหนักไปทางค่ายเขียว NVIDIA ซะมากกว่า เพราะดูเหมือนว่า “GeForce RTX 30 Series” ที่เวลานี้ได้วางจำหน่ายออกมาแล้วทั้งหมด 4 รุ่นด้วยกันไล่มาตั้งแต่ตัวท็อป GeForce RTX 3090, GeForce RTX 3080, GeForce RTX 3070 และ GeForce RTX 3060 Ti นี่ยังไม่นับรวมรุ่นอื่น ๆ ของซีรีส์นี้ที่มีแผนจะเปิดตัวในปีหน้าด้วย วันนี้เกวลินเลยจะมาแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักการ์ดจอของแต่ละรุ่นว่าอันไหนเหมาะกับเพื่อน ๆ กันบ้างค่ะ   GeForce RTX 3090 เป็นรุ่นท็อปสุดในเวลานี้เลยก็ว่าได้สำหรับ “GeForce RTX 3090” การ์ดจอรุ่นนี้ทาง NVIDIA ได้อธิบายเอาไว้ว่ามันคือนวัตกรรมใหม่ที่พัฒนามาจากการ์ดจอรุ่น GeForce GTX TITAN เพราะว่าหลังจากนี้ไปการ์ดจอตระกูล TITAN ทาง NVIDIA ตัดสินใจแล้วว่าจะเลิกพัฒนาแล้วหันมาใช้เป็นเลขรหัสแทน โดยพวกเขาได้เครมเอาไว้ว่าประสิทธิภาพของการ์ดจอตัวนี้สามารถเล่นเกมในความละเอียด 8K ได้อย่างสบาย ๆ ด้วย Ampere สถาปัตยกรรม RTX รุ่นที่ 2 ที่ทำให้เมื่อผู้เล่นเปิดใช้งาน Ray Tracing และ AI การทำงานจะดีขึ้นกว่าเดิมมาก จากผลการทดสอบแสดงให้เห็นแล้วว่า “เมื่อผู้ใช้งานเปิด DLSS กับ Ray Tracing เฟรมเรตจะสูงขึ้นมากกว่าตอนปิดการใช้งานเสียอีก!” ด้วยความที่มันเป็นการ์ดจอตัวท็อปสุดของ “GeForce RTX 30 Series” จึงไม่แปลกที่จะเกิดคำถามมากมายต่อเกมเมอร์ว่า “เราควรซื้อการ์ดจอตัวนี้ใช้งานเลยดีไหม!?” เพราะราคาก็เริ่มต้นอยู่ที่ 52,000 บาทขึ้นไป ( แล้วแต่แบรนด์ แต่รุ่นกันด้วย ) ซึ่งจัดอยู่ในราคาที่สูงมาก เราก็ต้องมาดูกันก่อนว่าถ้าเราซื้อการ์ดจอ GeForce RTX 3090 คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปหรือเปล่า ถ้าจะบอกว่าเอามาแค่เล่นเกมกับสตรีมถ่ายทอดสดอย่างเดียว บอกเลยว่ามันดูไม่เข้าท่าสักเท่าไหร่ ตัวการ์ดรุ่นนี้มีขนาดใหญ่ที่สุดกินพื้นที่ในการติดตั้งไปมากกว่า 3 ช่อง ถ้าเคสคอมพิวเตอร์ของเราเป็นขนาดเล็กก็ต้องมีการจัดวางระบบภายในใหม่ทั้งหมดเพื่อให้การระบายความร้อนได้ดีขึ้น แล้วสิ่งหนึ่งที่สำคัญอย่างมากก็คือการ์ดจอ GeForce RTX 3090 กินไฟสูงใช้ได้เลยค่ะ ถ้า Power Supply ของเรามีกำลังวัตต์น้อยจนเกินไปก็ไม่สามารถใช้การ์ดจอตัวนี้ได้นะคะ ซึ่งทาง NVIDIA ได้อธิบายเอาไว้ว่า Power Supply ขั้นต่ำจะต้องอยู่ที่ประมาณ 750 วัตต์ขึ้นไป อย่างไรก็ตามมันก็อยู่กับว่าอุปกรณ์ส่วนอื่น ๆ ว่าเราใช้ CPU ตัวไหนแล้วมีอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเกี่ยวกับไฟฟ้าบ้าง เพราะบางครั้งกำลังวัตต์ที่แนะนำไปอาจจะไม่เพียงพอ ซึ่งผู้ใช้งานก็จะต้องควักเงินเพื่อเปลี่ยน Power Supply ให้สูงขึ้นแล้วก็เผื่อเอาไว้ด้วย แล้วถ้าใช้ Power Supply รุ่นเก่าอาจจะต้องเปลี่ยนเพื่อจัดการจ่ายไฟอย่างเหมาะสม เพราะการ์ดจอรุ่นใหม่นี้ต้องใช้ขั้วต่อสายไฟเสริมอยู่ที่ PCle 8 Pin ถึง 2 ตัวด้วยกัน “ใครสเปกคอมพิวเตอร์ภายในสูง ๆ จัดเยอะ ๆ ไว้ก็ดีนะ” แล้วถ้าเพื่อน ๆ ยังคงเล่นเกมบนหน้าจอที่มีความละเอียดเพียงแค่ 1080p ( หรือต่ำกว่านั้น ) การ์ดจอตัวนี้ไม่เหมาะอย่างรุนแรงค่ะ เพราะมันถูกออกแบบมาเพื่อให้เล่นในความละเอียด 1440p ไปจนถึง 4K มากกว่าค่ะ ซึ่งทาง NVIDIA เครมว่ามันสามารถรันถึงความละเอียด 8K ได้เลยนะคะ แต่จากผลทดสอบของสื่อต่างประเทศและผู้ที่ใช้งานจริงพบว่า GeForce RTX 3090 สามารถที่จะรันเกมที่ใช้กราฟฟิกสูงพร้อมเปิดใช้งาน Ray Tracing, DLSS หรือ รันเกมบน DirectX 12 ในความละเอียด 4K แล้วเฟรมเรตทะลุ 60fps ได้อย่างสบาย ๆ อย่างไรก็ตามการ์ดจอตัวนี้นอกจากจะใช้เล่นเกมที่มีรายละเอียดสูงได้แล้ว สิ่งหนึ่งก็คือใครที่ทำงานสายออกแบบกราฟฟิก หรือ ตัดต่อวีดีโอก็ทำได้ด้วยเช่นกันค่ะ  สรุปแล้ว GeForce RTX 3090 ผู้ใช้งานต้องคำนึกถึงอะไรบ้าง!? ราคาที่สูงเกินไป เป็นการ์ดจอที่ขนาดใหญ่, น้ำหนักเยอะ และ ใช้พื้นที่เยอะ ถ้าผู้ใช้ซื้อมาแล้วใช้งานไม่คุ้มค่าอาจจะรู้สึกเสียดายเงินก็เป็นได้ ผู้ใช้จะต้องปัจจัยส่วนอื่น ๆ ภายในคอมพิวเตอร์ของเราด้วย เพราะการ์ดจอกินไฟสูงมาก อาจจะต้องมีการเพิ่มงบเพื่อให้สามารถใช้การ์ดจอตัวนี้เต็มประสิทธิภาพ การ์ดออกแบบมาเพื่อให้เราใช้ในการทำงานด้านกราฟฟิกและเล่นเกมในความละเอียด 4K หรือมากกว่า GeForce RTX 3080 ในเมื่อการ์ดจอตัวท็อปอย่าง GeForce RTX 3090 มีราคาที่สูงเกินไปทาง NVIDIA ก็มีการออกแบบการ์ดจอรองท็อปของ “GeForce RTX 30 Series” โดยใช้ชื่อรุ่นว่า “GeForce RTX 3080” มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 31,000 บาทขึ้นไป ( เช่นเดียวกันค่ะ แล้วแต่แบรนด์และรุ่นที่วางจำหน่าย ) ความน่าสนใจมันอยู่ตรงที่การ์ดจอตัวนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการเล่นเกมโดยเฉพาะเลยค่ะ ราคานี้อาจจะสูงไปสำหรับเกมเมอร์บางคน แต่ถ้าคุณเป็นเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ที่ชื่นชอบการเล่นเกมกราฟฟิกสวย ๆ ในความละเอียดสูง ๆ แล้วมีสเปกคอมพิวเตอร์ที่สูงอยู่แล้วพร้อมกับกําลังทรัพย์มันเป็นหนึ่งในการ์ดจอที่ขอแนะนำเลยค่ะ ขนาดการ์ดจอของ GeForce RTX 3080 จะเล็กกว่า GeForce RTX 3090 นิดหน่อยค่ะ โดยจะกินพื้นที่ประมาณ 2 ช่องเพื่อใช้ในการติดตั้งเช่นเดียวกันค่ะ การเคลียร์พื้นที่ของเคสก็เป็นสิ่งที่สำคัญเหมือนกันเพื่อที่จะไม่ให้เคสมีความแออัดเกินไปจนทำให้เกิดความร้อนภายในเคส แต่ถ้าใครที่เคสขนาดใหญ่อยู่แล้วมีพัดลมระบายอากาศที่ดีก็ถือว่ารอดตัวไปค่ะ ในเรื่องของ Power Supply ก็คล้าย ๆ กับการ์ดจอตัวท็อปพอสมควรค่ะ ด้วยความที่ว่าขั้วต่อสายไฟเสริมก็จะใช้ PCle 8 Pin ถึง 2 เหมือนกันดังนั้นเราจะต้องคำนวนเรื่องการจ่ายไฟของระบบให้ดี ถึงแม้ว่าจะมีการอธิบายเอาไว้แล้วว่าขั้นต่ำควรใช้ Power Supply 750 วัตต์ แต่มันก็มีกรณีที่ไฟไม่เพียงพอ ถ้าจะให้เกวลินแนะนำจริง ๆ ควรประมาณ 850 วัตต์ขึ้นไปจะดีมาก ๆ เลยค่ะ ก็เรียกว่าหลังจากที่ประกาศวางจำหน่ายในบ้านเราในช่วงแรกไป กลายเป็นการ์ดจอรุ่นที่ได้รับความนิยมจากเกมเมอร์ผู้ที่สนใจเป็นอย่างมาก มันคือการ์ดจอตัวรองท็อปที่มีราคาไม่สูงจนเกินไปแต่แลกมากับประสิทธิภาพที่ถ้าให้เทียบกับรุ่น GeForce RTX 2000 Series การตอบรับยังไม่เท่านี้เลยค่ะ ซึ่งเพื่อนของเกวลินที่สนิทกันเขาตัดสินใจเปลี่ยนการ์ดจอจากเดิมใช้ GeForce GTX TITAN X มาเป็น GeForce RTX 3080 ผลที่ได้ก็คือ “ใช้งานได้ดีกว่าการ์ดตัวเดิมอย่างเห็นได้ชัดเจน” โดยเกมที่เขาเลือกลองทดสอบก็คือ Cyberpunk 2077 เริ่มทดสอบในความละเอียด 1080p ที่ปรับรายละเอียดกราฟฟิกสูงสุดพร้อมเปิดใช้งาน DLSS กับ Ray Tracing พบว่าเฟรมเรตสูงมาก ๆ แล้วจากนั้นลองสตรีมถ่ายทอดสดไปด้วยสามารถทำได้ด้วยเช่นกัน “การ์ดจอตัวท็อปที่เล่นเกมปัจจุบันได้ลื่นไหล แต่ก็สู้อะไรใหม่ ๆ ใน 30 Series ไม่ได้เลย!” จากนั้นก็มีการขยับผลการทดสอบมาเทสในความละเอียด 2K หรือ 1440p แบบปรับรายละเอียดกราฟฟิกสูงสุดพร้อมเปิดใช้งาน DLSS กับ Ray Tracing เฟรมเรตก็ยังอยู่ในระดับที่ดีมาก ๆ แล้วตามมาด้วยการลองสตรีมถ่ายทอดสดบน Youtube ในความละเอียด 1440p/60fps ก็ทำได้ดีแถมยังเหลือ ๆ อีกด้วย บ่งบอกได้เลยว่าการ์ดจอ GeForce RTX 3080 ที่ทาง NVIDIA เครมเอาไว้เลยว่า “มันถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการเล่นเกมในความละเอียด 4K ได้อย่างสบาย ๆ” มันสามารถทำได้ตามที่เขาพูดเอาไว้จริง ๆ ค่ะ ดังนั้นถ้าสเปกภายในเครื่องของเราไม่ว่าจะเป็น CPU หรือ Ram ของเราเป็นตัวท็อป ๆ การ์ดจอรุ่นนี้คุ้มค่าที่คุณจะยอมเสียเงินเป็นอย่างมากค่ะ สรุปแล้ว GeForce RTX 3080 ผู้ใช้งานต้องคำนึกถึงอะไรบ้าง!? เรื่องของราคาก็จัดอยู่ในระดับที่สูงเหมือนกัน แต่ถ้าคุณมีเงินมากพอแล้วอยากจะเล่นเกมแบบลื่นไหลมันก็น่าลงทุน การ์ดจอตัวนี้ก็ยังคงกินไฟสูงเหมือนกัน ดังนั้นต้องคำนวนการจ่ายไฟของ Power Supply กันด้วยนะคะ ถ้าคุณเป็นเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ที่มีสเปกส่วนอื่น ๆ ก็สูงอยู่แล้ว การ์ดจอตัวนี้จัดไป เป็นการ์ดจอที่รองรับการเล่นเกมทั้งความละเอียด 1080p , 1440p และ 4K ได้อย่างสบาย ๆ GeForce RTX 3070 เราพูดถึงการ์ดจอตัวท็อปและรองท็อปของ “GeForce RTX 30 Series” กันไปแล้ว เรามาพูดถึงตัวกลาง ๆ ที่แท้ทรูกันบ้างค่ะ โดยรุ่นนี้มีชื่อว่า “GeForce RTX 3070” สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 18,900 บาทขึ้นไป ( ราคานี้ก็ขึ้นอยู่กับแบรนด์และรุ่นที่วางจำหน่ายด้วย ) โดยทาง NVIDIA เผยว่าการ์ดจอตัวนี้มีประสิทธิภาพที่ดีกว่า GeForce RTX 2080 Ti ที่เป็นตัวท็อปของรุ่นที่แล้ว ความพิเศษของรุ่นนี้คงเป็นเรื่องของราคาที่ดูสมเหตุ สมผลมากจริง ๆ ซึ่งเมื่อพอไปเทียบราคากับรุ่นก่อนที่มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ราว ๆ 37,000 บาทขึ้นไปมันแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเจนเลยค่ะ รุ่นก่อนหน้านี้เราจะเห็นว่าปัญหาเรื่องการกินไฟของ Power Supply พอสมควร แต่ GeForce RTX 3070 จะกินไฟขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณ 650 วัตต์ การเลือกใช้ Power Supply ให้เหมาะสมก็ยังคงเป็นปัจจัยหลักสำคัญอยู่ดีค่ะ ถ้าจะให้แนะนำควรใช้ Power Supply อยู่ที่ประมาณ 850 วัตต์กำลังดีค่ะ แถมการ์ดจอรุ่นนี้ยังใช้ขั้วต่อสายไฟเสริมในรูปแบบ PCle 8 Pin เพียงแค่ 1 ตัวเท่านั้น ตัวการ์ดจอมีขนาดที่ใหญ่พอตัวจะกินพื้นที่อยู่ประมาณ 2 ช่อง ผู้ใช้งานเองก็จำเป็นต้องเคลียร์พื้นที่ของเคสด้วย แล้วถ้าเคสมีขนาดเล็กไปก็อาจจะต้องเปลี่ยนใหม่เพื่อที่เราจะสามารถจัดสายไฟแล้วการระบายความร้อนที่อีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญในการประกอบคอมพิวเตอร์ที่ดีนั่นเองค่ะ มาพูดในเรื่องของประสิทธิภาพในการใช้งานกันหน่อยค่ะ GeForce RTX 3070 เป็นการ์ดจอระดับกลางที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้ในการเล่นเกมได้ทั้งความละเอียด 1080p, 1440p และ 4K ได้เหมือนกัน แต่จะทำได้ขนาดนั้น อุปกรณ์ส่วนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น CPU, Ram และ Mainboard ด้วย เพราะมันจะเป็นแรงขับเคลื่อนเพื่อให้การทำงานของการ์ดจอเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จากผลการทดสอบเกวลินก็พบว่ามันสามารถรันในความละเอียด 1080p กับ 1440p ได้อย่างสบาย ๆ เฟรมเรตที่ได้จากเกมอยู่ที่ 150 - 200fps กันเลยทีเดียว ส่วนเกมที่ใช้ในการรันความละเอียด 4K จะขับเฟรมเรตออกมาได้อยู่ที่ 59 - 65fps ทั้งนี้ก็อยู่ว่าเกมนั้น ๆ กินทรัพยากรมากน้อยแค่ไหน  ถ้าถามถึงความคุ้มค่า GeForce RTX 3070 มันเป็นการ์ดจอระดับกลางที่มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดี ใครที่มีสเปกคอมพิวเตอร์ระดับกลาง ๆ แล้วกำลังมองหาการ์ดจอดี ๆ สักตัวในราคาที่ไม่แรงมากจนเกินไปมันก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่ใช่น้อยเลยค่ะ  สรุปแล้ว GeForce RTX 3070 ผู้ใช้งานต้องคำนึกถึงอะไรบ้าง!? เหมือนทาง NVIDIA เดินเกมถูกมากเพราะมันคือการ์ดจอระดับกลางที่มีราคาจับต้องได้ เป็นการ์ดจอที่กินไฟน้อยกว่า 2 ตัวท็อปก่อนหน้านี้ แต่ยังไงก็ต้องคำนวนการจ่ายไฟของ Power Supply อยู่ดี คนที่ใช้สเปกคอมพิวเตอร์สเปกกลาง ๆ แล้วอยากเปลี่ยนการ์ดจอเพื่อใช้เล่นเกมได้ลื่นขึ้น ตัวนี้ก็เหมาะดี เป็นการ์ดจอที่รองรับการเล่นเกมทั้งความละเอียด 1080p , 1440p และ 4K ได้อย่างลื่นไหล GeForce RTX 3060 Ti มาถึงการ์ดจอตัวสุดท้ายของ “GeForce RTX 30 Series” ที่พึ่งประกาศเปิดตัวไปสด ๆ ร้อน ๆ เลยรุ่นที่มีชื่อว่า “GeForce RTX 3060 Ti” สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 14,900 บาทขึ้นไป ( เหมือนเดิมค่ะ ราคาก็จะอยู่ที่แบรนด์และรุ่นที่วางจำหน่าย ) สำหรับการ์ดจอตัวนี้ยังถือได้ว่าเป็นการ์ดจอระดับกลางที่ถูกปรับสภาพลดลงมาจาก GeForce RTX 3070 เล็กน้อย ทาง NVIDIA ก็ได้ออกมาให้ข้อมูลว่าตัวการ์ดจอรุ่นนี้ออกแบบมาให้เกมเมอร์ทั้งคนที่มีสเปกคอมพิวเตอร์ระดับกลาง ๆ หรือ ระดับที่ต่ำลงมาอีกนิดสามารถเป็นเจ้าของการ์ดจอตระกูล GeForce RTX 30 Series ได้ไม่ยาก สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะมอบประสบการณ์ในการเล่นเกมที่ดีกว่าการ์ดจอรุ่นเก่าของ GeForce RTX ก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน สำหรับ “GeForce RTX 3060 Ti” ถือได้ว่าเป็นการ์ดจอที่กินพลังงานไฟน้อยมาก ๆ เพราะทาง NVIDIA อธิบายเอาไว้ว่า Power Supply ที่เหมาะสมในการใช้งานที่สุดอยู่ที่ประมาณ 600 วัตต์ นั้นหมายความว่าถ้าจะให้ดีผู้ที่ใช้การ์ดจอตัวนี้ต้องเลือก Power Supply อยู่ที่ประมาณ 700 - 800 วัตต์กำลังดีค่ะ เพราะส่วนใหญ่คนที่มีสเปกคอมพิวเตอร์กลาง ๆ ก็คงไม่ได้ตกแต่งอะไรมากก็จะใช้กำลังไฟอยู่ที่ราว ๆ นี้น่าจะเหมาะสมที่สุดแล้ว ส่วนการ์ดจอ “GeForce RTX 3060 Ti” มีการทดสอบออกมาเรียบร้อยแล้วว่าเหมาะกับการใช้งานในการเล่นเกมระดับความละเอียด 1080p กับ 1440p ที่สามารถปรับสุดแล้วเปิดใช้งาน DLSS กับ Ray Tracing เฟรมเรตที่ได้ก็อยู่ในระดับที่เกินคาดเป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้ถ้าเราเผลอเปิดใช้งานเทคโนโลยี RTX เฟรมเรตอาจจะดรอปลงไปบ้างเพราะมันจะรีดประสิทธิภาพการ์ดจอให้ทำงานเกือบ 100% ดังนั้นถ้าเพื่อน ๆ ที่คิดว่าจะซื้อการ์ดจอตัวนี้มาเล่นเกมแบบปรับสุดทุกอย่างแล้วก็เปิด RTX พร้อมกับสตรีมถ่ายทอดสดไปด้วย สิ่งที่เราจะต้องคำนึกถึงก็คือว่า “สเปกภายในเครื่องของเราเพียงพอหรือเปล่า!?” ทั้ง CPU ที่เราใช้งานอยู่เป็นระดับไหน แล้วก็ Ram ที่มีอยู่ภายในเครื่อง แม้ว่าจะติดตั้งเอาไว้ 16 GB. แต่บางทีก็ต้องคำนึกถึงตอนเราเล่นเกม ตอนเปิดโปรแกรมต่าง ๆ เอาไว้ด้วย เพราะปัจจุบัน Ram 16 GB. มันกำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ ไม่งั้นตอนสตรีมถ่ายทอดสดเปิดอาการกระตุกจนคนดูไม่สนุกแน่นอนค่ะ แล้วถ้าถามว่าการ์ดจอ “GeForce RTX 3060 Ti” เหมาะกับเกมเมอร์ประเภทไหน จริง ๆ แล้วมันคล้าย ๆ กับรุ่นก่อนหน้านี้ค่ะ แต่ถ้าเพื่อน ๆ ที่มีสเปกคอมพิวเตอร์ระดับกลาง ๆ CPU ไม่ได้ตัวท็อปอะไรมาก ( หรือเป็นตัวท็อปจากรุ่นก่อน ๆ ) มี Ram อยู่ในตัวเครื่องสัก 16GB. ขึ้นไป แล้วการ์ดจอที่ใช้เป็นรุ่นเก่ามากแล้วรันเกมกราฟฟิกหนัก ๆ ในยุค 2018 - 2020 ที่เฟรมเรตได้ราว ๆ  45 - 50fps แถมกราฟฟิกปรับสุดก็ไม่ได้ แปลว่าเพื่อน ๆ คือหนึ่งในคนที่ควรจะเปลี่ยนการ์ดจอมาสู่ยุคสมัยใหม่ได้แล้วค่ะ แล้วยิ่งเงินในกระเป๋าไม่ได้มากพอที่จะไปเล่นตัว GeForce RTX 3070 หรือตัวรองท็อปอย่าง GeForce RTX 3080 รุ่นนี้ก็ถือว่าเหมาะสำหรับเกมเมอร์สายกระเป๋าแบนแฟนทิ้งได้ไม่ยากเลยค่ะ สรุปแล้ว GeForce RTX 3060 Ti ผู้ใช้งานต้องคำนึกถึงอะไรบ้าง!? เป็นการ์ดจอระดับกลางที่ราคาจับต้องได้เหมาะสำหรับคนที่มีทุนไม่มากนัก การ์ดจอตัวนี้กินไฟน้อยมาก ถ้าซื้อมาแล้วยังไงก็ต้องจัดการระบบไฟฟ้าให้ดีไม่งั้นอาจจะไม่เพียงพอ คนที่ใช้สเปกคอมพิวเตอร์ระดับกลาง ๆ หรือ ต่ำลงมา แล้วใช้การ์ดจอรุ่นเก่าที่รันเกมในช่วง 2 - 3 ปีนี้แบบปรับสุดไม่ได้ มันก็เหมาะที่จะเปลี่ยนมาใช้รุ่นนี้นะ เป็นการ์ดจอที่รองรับในการเล่นเกมทั้งความละเอียด 1080p กับ 1440p ได้สบาย ๆ แต่ระดับ 4K เฟรมเรตอาจจะไม่ได้ดีเท่าที่คาดหวังหนัก ต้องบอกไว้ก่อนนะคะว่าตอนนี้ทาง NVIDIA เตรียมเปิดตัวการ์ดจอรุ่นอื่น ๆ ของตระกูล “GeForce RTX 30 Series” ในปี 2021 เพิ่มเติมอีกด้วยไม่ว่าจะเป็น GeForce RTX 3080 Ti, GeForce RTX 3070 Ti, GeForce RTX 3060 และ GeForce RTX 3050 ใครที่ลังเลว่าจะรอตัวใหม่ ๆ ดีหรือเปล่าอันนี้ก็มาดูกันอีกทีว่าเรื่องของราคา, ความคุ้มค่า และ สเปกภายในเมื่อใช้งานจริง ทดสอบจริงแล้วมันจะเป็นยังไงบ้าง แต่ที่เกวลินทราบมาก็คือมันก็ไม่ได้แตกต่างจากรุ่นก่อนมากเท่าไหร่ แต่มีการเพิ่มความเร็วนิด ๆ หน่อย ๆ ไม่ก็เพิ่ม Ram ความจุให้สูงขึ้นเป็นต้น ก็หวังว่าบทความนี้คงจะช่วยเพื่อน ๆ ที่กำลังคิดว่าจะเปลี่ยนการ์ดจอช่วงนี้ได้ไม่มากก็น้อยค่ะ แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้าสวัสดีค่ะ!
17 Dec 2020
Nvidia เปิดตัว RTX 3060 Ti ในราคา 12,000 บาท เริ่มขาย 21.00 คืนนี้!
หลังจากมีขาวลือออกมามากมายในที่สุดทาง Nvidia ก็ได้ทำการเปิดตัว Geforce RTX 3060 Ti อย่างเป็นทางการแล้ว โดยจุดที่น่าสนใจมีอยู่ด้วยกัน 2 อย่างคือ ตัวการ์ดจะมีราคาที่จับต้องได้เพียงแค่ $399,99 หรือ 12,000 บาทเท่านั้น และจะเริ่มวางจำหน่ายคืนนี้เวลา 21.00 ครับ! ในช่วงที่เกมฟอร์มยักษ์ใหม่รอวางจำหน่ายมากมายไม่ว่าจะเป็น Cyberpunk 2077, Resident Evil Village, Far Cry 6 และอื่นๆ อีกมากมายแบบนี้ เชื่อว่าเหล่า PC เกมเมอร์ น่าจะกำลังสนใจที่จะอัพเกรดการ์ดจอกันอยู่ตอนนี้ ซึ่งเจ้า 3060 Ti นี้ก็มีความแรงเทียบเท่า หรือมากกว่า RTX 2080 Super เลยทีเดียว แถมราคายังไม่แพงจนเกินไปด้วย งานนี้บอกเลยว่าน่าสนใจสุดๆ ครับ Geforce RTX 3060 Ti จะวางจำหน่ายคืนนี้เวลา 21.00 ตามเวลาบ้านเราครับ Credit: GamingBolt
02 Dec 2020
Gigabyte เผยรหัสการ์ดจอใหม่ 4 ตัวที่คาดว่าจะเป็น RTX 3060Ti
RTX ซีรีส์ 30 วางจำหน่ายมาได้สักพักแล้วกับตัว 3080 และ 3090 โดยต้องบอกเลยว่าประสิทธิภาพของการ์ดจอเจนเนอร์เรชั่นนี้เมื่อเทียบกับราคาแล้ว เป็นอะไรที่ดูคุ้มค่ากับการเปลี่ยนมาใช้มาก อย่างไรก็ตามสำหรับเกมเมอร์บางคนอาจไม่ต้องการใช้การ์ดจอที่มีราคาสูงขนาด 3080 หรือ 3090 กำลังรอการมาของ 3070 กับ 3060 อยู่ แต่เหมือนว่าล่าสุด อาจมีอีก 1 ตัวเลือกมาให้เพื่อนได้ซื้อกันครับ! Gigabyte ได้เผยรหัสสินค้าการ์ดจอตัวใหม่ 4 ตัว คือ GV-N306TAORUS M-8GD GV-N306TGAMING OC-8GD GV-N306TEAGLE OC-8GD GV-N306TEAGLE-8GD โดยจุดที่น่าสนใจก็คือรหัสทั้ง 4 ตัว นั้นมีคำว่า "N306T" อยู่ทั้งหมด แถมทุกตัวยังเป็นรุ่นที่มีแรมสูงถึง 8GB ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงที่ ทั้ง 4 ตัวจะเป็น RTX 3060Ti อย่างไรก็ตามในข่าวก่อนหน้านี้ที่เป็นรูปภาพจาก Galax ไม่ได้มีการ์ดจอ 3060Ti หรือรหัสที่ใกล้เคียงถูกโชว์ออกมาด้วย ดังนั้นคิดว่ายังมีความเป็นไปได้ที่นี้จะเป็นเรื่องเข้าใจผิดเช่นกันครับ  
02 Oct 2020
GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
ผลการค้นหา : "RTX 3060"
GALAX เปิดตัว RTX 3060 Metaltop Mini ที่มาในขนาดเล็ก 1 พัดลม
เรียกได้ว่าเป็นข่าวดีสำหรับเกมเมอร์ชาว PC ที่กำลังมีแผนจะประกอบเครื่องที่มีขนาดไม่ใหญ่มากไซซ์ ITX เครื่องขาว เมื่อล่าสุด Galax ได้ทำการเปิดตัวการจอ RTX 3060 Metaltop Mini ที่มีขนาดเพียงแค่ 1 พัดลม และให้ระบายอากาศออกทางข้างหลังเหมือนกับการ์ดจอโมเดลเก่าๆ สิ่งที่น่าตกใจคือ  RTX 3060 Metaltop Mini นับเป็นการ์ดจอรุ่นแรกที่ใช้การระบายความร้อนแบบ 1 พัดลมในเจน Ampere Series (RTX 30 Series) โดยใช้ชิป GA106-302 GPU หรือรุ่น LHR ในการผลิต เพื่อให้ไม่เป็นเป้าหมายของเหล่านักขุด Crypto แน่นอนว่าไม่ได้มีการลดความแรงของสเปกดั้งเดิมที่เราเห็นใน RTX 3060 ลงเลย เพียงแต่ในส่วนของการระบายความร้อน อาจจำเป็นต้องทดสอบกันอีกทีนอกจาก Galax แล้ว ดูเหมือนทาง IGame จากประเทศจีนเอง ก็กำลังจะมีการวางขายการ์ดจอ RTX 3060 แบบ 1 พัดลมเช่นเดียวกัน อย่างที่ผมยืนยันไปในช่วงแรกของข่าว ว่าการ์ดจอเล็กๆ แบบนี้เป็นของชอบสำหรับนักประกอบสาย ITX ที่มีพื้นที่ภายในเครื่องจำกัดอย่างแน่นอน ในส่วนของราคาเชื่อว่าจะถูกกว่า RTX 3060 ที่เห็นในตลาดตอนนี้ แต่เท่าไหร่ก็ต้องรอดูกันCredit : VideoCardZ
25 Nov 2021
Nvidia อาจใส่ชิปป้องกันขุด BitCoin ในการ์ดจอ RTX ทั้งหมดที่จะผลิตหลังจากนี้
นับเป็นข่าวดีสำหรับเหล่าเกมเมอร์เมื่อมีการยืนยันว่า RTX 3060 จะถูกลดประสิทธิภาพของการ์ดลง หาก Bios ตรวจพบว่าผู้ใช้ง่ายเอาการ์ดไปขุด BitCoin แต่จะมีการออกการ์ดสำหรับขุด BitCoin โดยเฉพาะออกมาให้แทน ซึ่งวันนี้ก็มีอีกหนึ่งข่าวดีสำหรับเกมเมอร์ชาว PC เพราะการ์ดทุกรุ่นที่ถูกผลิตหลังจากนี้ อาจมีการใส่ชิปป้องกันการขุดแบบเดียวกับ 3060 ทั้งหมดครับ คำว่าผลิตหลังจากนี้หมายถึงรวม 3060Ti, 3070, 3080 และ 3090 ด้วย ซึ่งเรื่องนี้ถูกหยิบขึ้นมาพูดโดยผู้ใช้งาน Twitter ที่ชื่อว่า kopite7kimi โดย RedGamingTech เองก็ได้มาตอบ Twitter ของเขาว่าได้ยินสิ่งที่คล้ายๆ กันมา ทำให้มีความเป็นไปได้ที่เรื่องนี้จะเป็นความจริง การที่ Nvidia จะใส่ชิปนี้เข้ามาในการ์ดจอทุกรุ่น จะเท่ากับว่าการ์ดจอสำหรับเล่นเกมทั้งหมด ที่ผลิตออกมาหลังจากนี้ อาจไม่ได้มีราคาสูงเท่ากับการ์ดที่มีในตลาดตอนนี้ เนื่องจากมันไม่สามารถเอาไปขุด BitCoin ได้ แต่แน่นอนว่าเรื่องนี้ยังไม่มีการยืนยันโดย Nvidia ดังนั้นต้องรอดูกันต่อไปว่าจะเป็นเรื่องจริงแค่ไหนครับ Credit: https://www.notebookcheck.net/NVIDIA-may-re-release-the...
22 Feb 2021
Nvidia อาจใส่ชิปป้องกันขุด BitCoin ในการ์ดจอ RTX ทั้งหมดที่จะผลิตหลังจากนี้
นับเป็นข่าวดีสำหรับเหล่าเกมเมอร์เมื่อมีการยืนยันว่า RTX 3060 จะถูกลดประสิทธิภาพของการ์ดลง หาก Bios ตรวจพบว่าผู้ใช้ง่ายเอาการ์ดไปขุด BitCoin แต่จะมีการออกการ์ดสำหรับขุด BitCoin โดยเฉพาะออกมาให้แทน ซึ่งวันนี้ก็มีอีกหนึ่งข่าวดีสำหรับเกมเมอร์ชาว PC เพราะการ์ดทุกรุ่นที่ถูกผลิตหลังจากนี้ อาจมีการใส่ชิปป้องกันการขุดแบบเดียวกับ 3060 ทั้งหมดครับ คำว่าผลิตหลังจากนี้หมายถึงรวม 3060Ti, 3070, 3080 และ 3090 ด้วย ซึ่งเรื่องนี้ถูกหยิบขึ้นมาพูดโดยผู้ใช้งาน Twitter ที่ชื่อว่า kopite7kimi โดย RedGamingTech เองก็ได้มาตอบ Twitter ของเขาว่าได้ยินสิ่งที่คล้ายๆ กันมา ทำให้มีความเป็นไปได้ที่เรื่องนี้จะเป็นความจริง การที่ Nvidia จะใส่ชิปนี้เข้ามาในการ์ดจอทุกรุ่น จะเท่ากับว่าการ์ดจอสำหรับเล่นเกมทั้งหมด ที่ผลิตออกมาหลังจากนี้ อาจไม่ได้มีราคาสูงเท่ากับการ์ดที่มีในตลาดตอนนี้ เนื่องจากมันไม่สามารถเอาไปขุด BitCoin ได้ แต่แน่นอนว่าเรื่องนี้ยังไม่มีการยืนยันโดย Nvidia ดังนั้นต้องรอดูกันต่อไปว่าจะเป็นเรื่องจริงแค่ไหนครับ Credit: https://www.notebookcheck.net/NVIDIA-may-re-release-the...
22 Feb 2021
RTX 3060 จะขุด BitCoin ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ แต่จะมีรุ่นสำหรับขุดเฉพาะตามมา
ถือเป็นข่าวดีสำหรับเกมเมอร์ชาว PC ไปครับ เมื่อ Nvidia ประกาศออกมาว่า Driver ของ Geforce RTX 3060 ที่กำลังวางขาย จะทำให้การ์ดมีประสิทธิภาพในการขุด BitCoin ลดลง 50% เพื่อให้ตัวการ์ดถูกซื้อไปใช้งาน หรือเล่นเกมจริงๆ เท่านั้น! อย่างไรก็ตาม Driver ตัวใหม่นี้ดูเหมือนจะส่งผลกับ RTX 3060 เท่านั้น สำหรับการ์ดจอรุ่นพี่อย่าง 3060Ti, 3070, 3080 และ 3090 จะยังคงสามารถใช้ขุด BitCoin ได้เหมือนเดิมตามปกติ (ซึ่งอาจทำให้ราคาของทั้ง 4 รุ่นเพิ่มขึ้นไปอีก) ครับ แต่ในขณะเดียวกันก็มีอีกหนึ่งข่าวที่อาจจะเป็นข่าวดี คือทาง Nvidia ได้มีการประกาศว่าหลังจากนี้จะออกการ์ดจอรุ่นพิเศษสำหรับขุด Cryptocurrency ออกมาให้โดยเฉพาะ ซึ่งถ้าหากว่าการ์ดใบนี้ถูกวางจำหน่ายแล้ว เป็นไปได้ว่าการ์ดจอสำหรับเล่นเกมเอง ก็อาจจะลดราคาลงมาให้เราสามารถหาซื้อมาใช้ได้ แต่ก็คงต้องรอดูกันต่อไปครับ Credit: https://www.pcgamer.com/nvidia-not-limiting-gpus-already.../
19 Feb 2021
RTX 3060 จะขุด BitCoin ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ แต่จะมีรุ่นสำหรับขุดเฉพาะตามมา
ถือเป็นข่าวดีสำหรับเกมเมอร์ชาว PC ไปครับ เมื่อ Nvidia ประกาศออกมาว่า Driver ของ Geforce RTX 3060 ที่กำลังวางขาย จะทำให้การ์ดมีประสิทธิภาพในการขุด BitCoin ลดลง 50% เพื่อให้ตัวการ์ดถูกซื้อไปใช้งาน หรือเล่นเกมจริงๆ เท่านั้น! อย่างไรก็ตาม Driver ตัวใหม่นี้ดูเหมือนจะส่งผลกับ RTX 3060 เท่านั้น สำหรับการ์ดจอรุ่นพี่อย่าง 3060Ti, 3070, 3080 และ 3090 จะยังคงสามารถใช้ขุด BitCoin ได้เหมือนเดิมตามปกติ (ซึ่งอาจทำให้ราคาของทั้ง 4 รุ่นเพิ่มขึ้นไปอีก) ครับ แต่ในขณะเดียวกันก็มีอีกหนึ่งข่าวที่อาจจะเป็นข่าวดี คือทาง Nvidia ได้มีการประกาศว่าหลังจากนี้จะออกการ์ดจอรุ่นพิเศษสำหรับขุด Cryptocurrency ออกมาให้โดยเฉพาะ ซึ่งถ้าหากว่าการ์ดใบนี้ถูกวางจำหน่ายแล้ว เป็นไปได้ว่าการ์ดจอสำหรับเล่นเกมเอง ก็อาจจะลดราคาลงมาให้เราสามารถหาซื้อมาใช้ได้ แต่ก็คงต้องรอดูกันต่อไปครับ Credit: https://www.pcgamer.com/nvidia-not-limiting-gpus-already.../
19 Feb 2021
จัดอันดับการ์ดจอ PC ที่คุ้มค่ากับการซื้อมาเล่นเกมมากที่สุดในตอนนี้!
ด้วยความที่ตอนนี้วงการเกมกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ ที่ภาพ / กราฟิก ถูกยกระดับให้มีความสวยงามสมจริงมากขึ้น (ยุคนี้ต้อง 4K / 60 FPS) เชื่อว่าผู้เล่นบนเครื่อง PC ก็กำลังสนใจที่จะเปลี่ยนไปใช้การ์ดจ่อซีรีส์ใหม่กันอยู่ไม่มากก็น้อย ส่งผลให้ในปัจจุบันการแข่งขันในตลาดของ Hardware เป็นไปอย่างดุเดือดมากๆ ระหว่าง AMD กับ Nvidia  แม้ว่าการ์ดจอของทั้ง 2 ค่ายจะถือว่าแรงมากๆ และมีความแตกต่างกันไม่มาก แต่เชื่อว่าเหล่า PC เกมเมอร์ก็ยังอยากได้การ์ดจอดีที่สุด ในราคาดีที่สุดสำหรับตัวเองอยู่ดี ส่งผลให้หลายคนยังเลือกไม่ได้ว่าจะซื้อการ์ดจอรุ่นไหน ของค่ายไหนถึงจะเรียกได้ว่าดีที่สุด ทางเรา GameFever Th จึงได้จัดอันดับรายชื่อการ์ดจอที่คุ้มค่าจะซื้อมาเล่นเกมที่สุดมาให้ในบทความนี้ครับ ก่อนที่จะไปเริ่มดูกันว่าการ์ดจอตัวไหนบ้าง ขอออกตัวก่อนว่าในบทความนี้เราไม่ได้พูดถึงเรื่องประสิทธิภาพเพียงอย่างเดียว แต่ยังนำเอาเรื่องของราคา รวมถึงความคุ้มค่าที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งในเกณฑ์การให้คะแนนด้วย แน่นอนว่าจะมีการเขียนบอกข้อดี รวมถึงเหตุผลของการ์ดจอแต่ละอันดับด้วย ถ้าเพื่อนๆ พร้อมแล้ว มาเริ่มกันเลยครับ! อันดับ 1 Nvidia GeForce RTX 3080 CUDA cores: 8,704 Base clock: 1,440MHz Boost clock: 1,710MHz TFLOPs: 29.76 Memory: 10GB GDDR6X Memory clock: 19 GT/s Memory bandwidth: 760GB/s 3080 คือการ์ดจอที่มีประสิทธิภาพสูงที่สามารถเล่นเกมแบบ 4K / 60 FPS โดยปรับ Setting สูงๆ ได้ แถมยังมาในราคาเพียงแค่ 25,000 - 35,000 เท่านั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่การ์ดตัวนี้เป็นรุ่นที่น่าซื้อมากที่สุดแล้วในตอนนี้ ยิ่งรุ่นนี้มาพร้อมกับหัวคำนวณ Ray Tracing ที่ดีกว่าเจนแรกมากด้วยแล้ว ยิ่งควรค่าแก่การหามาเปลี่ยนมากขึ้นไปอีกครับ น่าเสียดายที่ด้วยความยอดเยี่ยมของตัวการ์ด เลยทำให้หาซื้อได้ยากมากๆ เช่นกัน และด้วยความที่หาซื้อยาก เลยทำให้ราคาของตัวการ์ดเพิ่มสูงขึ้นหลายพันบาทเลยในตอนนี้ นอกจากนี้ตัวการ์ด RTX 3080 ยังกินไฟค่อนข้างมาก การมี Power Supply กำลังไฟ 850W จึงเป็นอีกหนึ่งข้อจำกัดที่เราอาจต้องคำนึงหากจะหาซื้อการ์ดตัวนี้มาใช้ครับ อันดับ 2 AMD Radeon RX 6800 XT RDNA cores: 4,608 Base clock: 1,825MHz Boost clock: 2,250MHz TFLOPs: 20.74 Memory: 16GB GDDR6 Memory clock: 16 GT/s Memory bandwidth: 512GB/s ถ้าเอาแค่เรื่องความแรงของตัวประมวลผลของการ์ดเพียงอย่างเดียว RX 6800 XT ถือได้ว่าเป็นการ์ดที่แรงกว่า RTX 3080 ในราคาที่ถูกกว่าประมาณ 1,500 - 5,000 บาทครับ (ราคาอยู่แถวๆ 23,000 - 32,500 บาท) แถมยังเป็นการ์ดรุ่นที่มี Memory มากกว่าถึง 16 GB ด้วย ส่งผลให้การ์ดตัวนี้สามารถเล่นเกมแบบ 4K / 60 FPS ด้วย Setting สูงๆ ได้แบบสบายๆ เช่นเดียวกัน น่าเสียดายที่เมื่อพูดถึงประสบการณ์เล่นเกมแล้ว เจ้า RX 6800 XT จะสามารถดัน FPS ได้น้อยกว่า RTX 3080 เมื่อเปิดใช้งาน Ray-Tracing นอกจากนี้การ์ดทางฝั่งของ Nvidia ยังสามารถใช้งานฟังก์ชันที่ชื่อว่า DLSS 2.0 เพื่อเพิ่ม FPS ที่ได้ รวมถึงคุณภาพของกราฟิกได้ด้วย ส่งผลให้การยอมจ่ายเพิ่มอีกเล็กน้อย เพื่อเทคโนโลยีเหล่านี้ เป็นอะไรที่ดูคุ้มค่ามากกว่าครับ อันดับ 3 Nvidia GeForce RTX 3060Ti CUDA cores: 4,864 Base clock: 1,410MHz  Boost clock: 1,665MHz TFLOPs: 16.20 Memory: 8GB GDDR6 Memory clock: 14 GT/s Memory bandwidth: 448GB/s น้องเล็กสุดของตระกูล RTX 30 Series ตัวการ์ดมาพร้อมกับประสิทธิภาพระดับเดียวกับ RTX 2080 Super แต่มีหัว Ray-Tracing ที่ดีกว่า และราคาเพียงแค่ 13,000 - 19,000 บาทเท่านั้น ด้วยประสิทธิภาพที่ได้ กับราคาที่ต้องจ่าย เลยทำให้เจ้าการ์ดน้องเล็กใบนี้ได้อันดับ 3 ไปในลิสต์นี้ครับ แม้จะไม่สามารถเล่นเกมแบบ 4K / 60 FPS ได้ใน Setting สูงๆ เหมือนกับพี่ๆ ในซีรีส์เดียวกัน แต่ถ้าหากเพื่อนๆ ไม่ได้มีงบมากมายในการประกอบ PC หนึ่งเครื่องแล้วละก็ RTX 3060Ti คงเรียกได้ว่าเป็นตัวเลือกดีที่สุดในตอนนี้ครับ แต่น่าเสียดายที่อาจหาของได้ยากสักหน่อยช่วงนี้ อันดับ 4 Nvidia GeForce RTX 3070 CUDA cores: 5,888 Base clock: 1,500MHz Boost clock: 1,725MHz  TFLOPs: 20.37 Memory: 8GB GDDR6 Memory clock: 14 GT/s Memory bandwidth: 448GB/s พี่คนรองใน RTX 30 Series ที่มาพร้อมกับแกนประมวลผล RTX แบบใหม่ซึ่งดีกว่าเช่นกัน แต่ด้วยความที่ราคาของรุ่นนี้อยู่ที่ประมาณ 19,900 - 28,900 ซึ่งห่างไกลจาก RX 6800 XT ไม่มาก เลยทำให้เจ้า RTX 3070 ได้อันดับที่ 4 ไปอย่างน่าเสียดาย อย่างไรก็ตามถ้าหากไม่ได้ต้องการจะเล่นเกมด้วยความละเอียด 2K / 60 FPS รวมถึงเปิด Ray-Tracing ไปด้วย RTX 3070 ก็ยังถือได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีมากๆ ถ้าหากว่าเพื่อนๆ เป็นสาวกค่ายเขียว และต้องการการ์ดจอที่แรงพอสมควรในราคาช่วง 20 กลางๆ เจ้า 3070 คือตัวเลือกที่ดีมากครับ อันดับ 5 AMD Radeon RX 6900 XT RDNA cores: 5,120 Base clock: 1,825MHz Boost clock: 2,250MHz TFLOPs: 23.04 Memory: 16GB GDDR6 Memory clock: 16 GT/s Memory bandwidth: 512GB/s คงสามารถพูดได้ว่านี้คือการ์ดที่แรงมากที่สุดของทางฝั่งค่ายแดงแล้วในตอนนี้ ด้วยความที่แรงเกือบเทียบเท่ากับ RTX 3090 ซึ่งแรงที่สุดของทางฝั่งค่ายเขียวแต่มีราคาที่ถูกกว่าถึง หลายหมื่นบาท (ราคาอยู่ที่ประมาณ 32,000 - 42,000 บาท) จึงทำให้ การ์ดใบนี้อยู่ในอันดับที่ 5 ของรายชื่อครับ จริงอยู่ว่าการ์ดตัวนี้มีความแรงที่สูงมากๆ แถมยังมีราคาเริ่มต้นไม่ไกลจากราคาสูงสุดของ RTX 3080 มากนัก แต่ถ้าหากเพื่อนๆ จะซื้อมาเพื่อเล่นเกมระดับ 4K / 60 FPS แล้ว ด้วยความที่ทาง Nvidia มีหัว Ray-Tracing กับเทคโนโลยี DLSS อยู่ จึงยังทำให้ RTX 3080 มีภาษีที่ดีมากกว่าหากจะซื้อมาเพื่อเล่นเกมครับ อันดับ 6 Nvidia GeForce RTX 3090 CUDA cores: 10,496 Base clock: 1,395MHz Boost clock: 1,695MHz TFLOPs: 35.68 Memory: 24GB GDDR6X Memory clock: 19.5 GT/s Memory bandwidth: 935.8GB/s พี่ใหญ่ รวมถึงเป็นการ์ดจอรุ่นที่แรงสุดของโลกในตอนนี้ สามารถเล่นเกมได้ถึงความละเอียด 8K แต่ด้วยราคาที่แพงมากๆ (ประมาณ 55,000 - 65,000 บาท) บวกกับประสิทธิภาพที่แทบไม่ต่างจาก RTX 3080 เลยเมื่อเล่นเกมที่ความละเอียด 4K จึงทำให้การ์ดรุ่นนี้ดูไม่คุ้มกับเงินที่ต้องจ่ายเพิ่ม เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้ครับ แน่นอนว่าถ้าอยากไปให้สุดในเรื่องของความแรงกับการเล่นเกมบนจอ 8K ยังไงเพื่อนๆ ก็จำเป็นต้องซื้อ RTX 3090 ครับ แต่จอที่มีความละเอียดสูงถึง 8K ก็เรียกได้ว่ามีราคาที่แพงมากๆ เช่นกัน ไหนจะต้องจ่ายเงินซื้อ CPU แรงๆ เพื่อไม่ให้เกิดอาการคอขวดอีก ถ้าเพื่อนๆ ไม่ได้มีงบประกอบ PC ถึงหลักแสน การ์ดจอตัวนี้ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะหามาใช้งานเลยครับ แม้ว่าบทความนี้ของเราจะพูดถึงความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับเงินที่จ่าย แต่สุดท้ายแล้วเพื่อนๆ จะเลือกซื้อการ์ดจอตัวไหน ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะเอาไปใช้เล่นเกมแบบไหน หรือทำอะไรบ้างครับ แต่ในกรณีที่มีงบเพียงแค่ 50,000 บาท แล้วอยากได้การ์ดจอที่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายมากที่สุด ก็หวังว่าบทความนี้จะสามารถช่วยเพื่อนๆ ได้ ถ้าหากมีคำถามอะไรก็สามารถถามในคอมเม้นต์ของโพสต์นี้ได้เลย ถ้าตัวผมสามารถช่วยได้ ก็ยินดีจะช่วยไขข้อสงสัยให้กับเพื่อนๆ ครับ!
07 Jan 2021
รู้ก่อนซื้อ! ถ้าต้องเปลี่ยนการ์ดจอใหม่ตอนนี้เป็น NVIDIA GeForce RTX 30 Series จะเลือกรุ่นไหนดี
ปีนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปีในการเปลี่ยนแปลงของนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีเลยก็ว่าได้ เพราะอย่างที่เห็นเครื่องเกมคอนโซลรุ่นใหม่ก็เปิดตัวไปแล้ว ( แต่เมืองไทยยังไม่ประกาศวันวางจำหน่ายก็ตาม ) นอกจากนี้เกมเมอร์ฝั่ง PC ก็คงได้เห็นการเปิดตัวการ์ดจอ [GPU] ของทั้งค่ายเขียว NVIDIA และ ค่ายแดง AMD ในซีรีส์ใหม่กันไปแล้วเรียกว่ากระแสตอบรับดีทั้งสองค่ายเลย แต่เหมือนปีนี้จะหนักไปทางค่ายเขียว NVIDIA ซะมากกว่า เพราะดูเหมือนว่า “GeForce RTX 30 Series” ที่เวลานี้ได้วางจำหน่ายออกมาแล้วทั้งหมด 4 รุ่นด้วยกันไล่มาตั้งแต่ตัวท็อป GeForce RTX 3090, GeForce RTX 3080, GeForce RTX 3070 และ GeForce RTX 3060 Ti นี่ยังไม่นับรวมรุ่นอื่น ๆ ของซีรีส์นี้ที่มีแผนจะเปิดตัวในปีหน้าด้วย วันนี้เกวลินเลยจะมาแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักการ์ดจอของแต่ละรุ่นว่าอันไหนเหมาะกับเพื่อน ๆ กันบ้างค่ะ   GeForce RTX 3090 เป็นรุ่นท็อปสุดในเวลานี้เลยก็ว่าได้สำหรับ “GeForce RTX 3090” การ์ดจอรุ่นนี้ทาง NVIDIA ได้อธิบายเอาไว้ว่ามันคือนวัตกรรมใหม่ที่พัฒนามาจากการ์ดจอรุ่น GeForce GTX TITAN เพราะว่าหลังจากนี้ไปการ์ดจอตระกูล TITAN ทาง NVIDIA ตัดสินใจแล้วว่าจะเลิกพัฒนาแล้วหันมาใช้เป็นเลขรหัสแทน โดยพวกเขาได้เครมเอาไว้ว่าประสิทธิภาพของการ์ดจอตัวนี้สามารถเล่นเกมในความละเอียด 8K ได้อย่างสบาย ๆ ด้วย Ampere สถาปัตยกรรม RTX รุ่นที่ 2 ที่ทำให้เมื่อผู้เล่นเปิดใช้งาน Ray Tracing และ AI การทำงานจะดีขึ้นกว่าเดิมมาก จากผลการทดสอบแสดงให้เห็นแล้วว่า “เมื่อผู้ใช้งานเปิด DLSS กับ Ray Tracing เฟรมเรตจะสูงขึ้นมากกว่าตอนปิดการใช้งานเสียอีก!” ด้วยความที่มันเป็นการ์ดจอตัวท็อปสุดของ “GeForce RTX 30 Series” จึงไม่แปลกที่จะเกิดคำถามมากมายต่อเกมเมอร์ว่า “เราควรซื้อการ์ดจอตัวนี้ใช้งานเลยดีไหม!?” เพราะราคาก็เริ่มต้นอยู่ที่ 52,000 บาทขึ้นไป ( แล้วแต่แบรนด์ แต่รุ่นกันด้วย ) ซึ่งจัดอยู่ในราคาที่สูงมาก เราก็ต้องมาดูกันก่อนว่าถ้าเราซื้อการ์ดจอ GeForce RTX 3090 คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปหรือเปล่า ถ้าจะบอกว่าเอามาแค่เล่นเกมกับสตรีมถ่ายทอดสดอย่างเดียว บอกเลยว่ามันดูไม่เข้าท่าสักเท่าไหร่ ตัวการ์ดรุ่นนี้มีขนาดใหญ่ที่สุดกินพื้นที่ในการติดตั้งไปมากกว่า 3 ช่อง ถ้าเคสคอมพิวเตอร์ของเราเป็นขนาดเล็กก็ต้องมีการจัดวางระบบภายในใหม่ทั้งหมดเพื่อให้การระบายความร้อนได้ดีขึ้น แล้วสิ่งหนึ่งที่สำคัญอย่างมากก็คือการ์ดจอ GeForce RTX 3090 กินไฟสูงใช้ได้เลยค่ะ ถ้า Power Supply ของเรามีกำลังวัตต์น้อยจนเกินไปก็ไม่สามารถใช้การ์ดจอตัวนี้ได้นะคะ ซึ่งทาง NVIDIA ได้อธิบายเอาไว้ว่า Power Supply ขั้นต่ำจะต้องอยู่ที่ประมาณ 750 วัตต์ขึ้นไป อย่างไรก็ตามมันก็อยู่กับว่าอุปกรณ์ส่วนอื่น ๆ ว่าเราใช้ CPU ตัวไหนแล้วมีอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเกี่ยวกับไฟฟ้าบ้าง เพราะบางครั้งกำลังวัตต์ที่แนะนำไปอาจจะไม่เพียงพอ ซึ่งผู้ใช้งานก็จะต้องควักเงินเพื่อเปลี่ยน Power Supply ให้สูงขึ้นแล้วก็เผื่อเอาไว้ด้วย แล้วถ้าใช้ Power Supply รุ่นเก่าอาจจะต้องเปลี่ยนเพื่อจัดการจ่ายไฟอย่างเหมาะสม เพราะการ์ดจอรุ่นใหม่นี้ต้องใช้ขั้วต่อสายไฟเสริมอยู่ที่ PCle 8 Pin ถึง 2 ตัวด้วยกัน “ใครสเปกคอมพิวเตอร์ภายในสูง ๆ จัดเยอะ ๆ ไว้ก็ดีนะ” แล้วถ้าเพื่อน ๆ ยังคงเล่นเกมบนหน้าจอที่มีความละเอียดเพียงแค่ 1080p ( หรือต่ำกว่านั้น ) การ์ดจอตัวนี้ไม่เหมาะอย่างรุนแรงค่ะ เพราะมันถูกออกแบบมาเพื่อให้เล่นในความละเอียด 1440p ไปจนถึง 4K มากกว่าค่ะ ซึ่งทาง NVIDIA เครมว่ามันสามารถรันถึงความละเอียด 8K ได้เลยนะคะ แต่จากผลทดสอบของสื่อต่างประเทศและผู้ที่ใช้งานจริงพบว่า GeForce RTX 3090 สามารถที่จะรันเกมที่ใช้กราฟฟิกสูงพร้อมเปิดใช้งาน Ray Tracing, DLSS หรือ รันเกมบน DirectX 12 ในความละเอียด 4K แล้วเฟรมเรตทะลุ 60fps ได้อย่างสบาย ๆ อย่างไรก็ตามการ์ดจอตัวนี้นอกจากจะใช้เล่นเกมที่มีรายละเอียดสูงได้แล้ว สิ่งหนึ่งก็คือใครที่ทำงานสายออกแบบกราฟฟิก หรือ ตัดต่อวีดีโอก็ทำได้ด้วยเช่นกันค่ะ  สรุปแล้ว GeForce RTX 3090 ผู้ใช้งานต้องคำนึกถึงอะไรบ้าง!? ราคาที่สูงเกินไป เป็นการ์ดจอที่ขนาดใหญ่, น้ำหนักเยอะ และ ใช้พื้นที่เยอะ ถ้าผู้ใช้ซื้อมาแล้วใช้งานไม่คุ้มค่าอาจจะรู้สึกเสียดายเงินก็เป็นได้ ผู้ใช้จะต้องปัจจัยส่วนอื่น ๆ ภายในคอมพิวเตอร์ของเราด้วย เพราะการ์ดจอกินไฟสูงมาก อาจจะต้องมีการเพิ่มงบเพื่อให้สามารถใช้การ์ดจอตัวนี้เต็มประสิทธิภาพ การ์ดออกแบบมาเพื่อให้เราใช้ในการทำงานด้านกราฟฟิกและเล่นเกมในความละเอียด 4K หรือมากกว่า GeForce RTX 3080 ในเมื่อการ์ดจอตัวท็อปอย่าง GeForce RTX 3090 มีราคาที่สูงเกินไปทาง NVIDIA ก็มีการออกแบบการ์ดจอรองท็อปของ “GeForce RTX 30 Series” โดยใช้ชื่อรุ่นว่า “GeForce RTX 3080” มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 31,000 บาทขึ้นไป ( เช่นเดียวกันค่ะ แล้วแต่แบรนด์และรุ่นที่วางจำหน่าย ) ความน่าสนใจมันอยู่ตรงที่การ์ดจอตัวนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการเล่นเกมโดยเฉพาะเลยค่ะ ราคานี้อาจจะสูงไปสำหรับเกมเมอร์บางคน แต่ถ้าคุณเป็นเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ที่ชื่นชอบการเล่นเกมกราฟฟิกสวย ๆ ในความละเอียดสูง ๆ แล้วมีสเปกคอมพิวเตอร์ที่สูงอยู่แล้วพร้อมกับกําลังทรัพย์มันเป็นหนึ่งในการ์ดจอที่ขอแนะนำเลยค่ะ ขนาดการ์ดจอของ GeForce RTX 3080 จะเล็กกว่า GeForce RTX 3090 นิดหน่อยค่ะ โดยจะกินพื้นที่ประมาณ 2 ช่องเพื่อใช้ในการติดตั้งเช่นเดียวกันค่ะ การเคลียร์พื้นที่ของเคสก็เป็นสิ่งที่สำคัญเหมือนกันเพื่อที่จะไม่ให้เคสมีความแออัดเกินไปจนทำให้เกิดความร้อนภายในเคส แต่ถ้าใครที่เคสขนาดใหญ่อยู่แล้วมีพัดลมระบายอากาศที่ดีก็ถือว่ารอดตัวไปค่ะ ในเรื่องของ Power Supply ก็คล้าย ๆ กับการ์ดจอตัวท็อปพอสมควรค่ะ ด้วยความที่ว่าขั้วต่อสายไฟเสริมก็จะใช้ PCle 8 Pin ถึง 2 เหมือนกันดังนั้นเราจะต้องคำนวนเรื่องการจ่ายไฟของระบบให้ดี ถึงแม้ว่าจะมีการอธิบายเอาไว้แล้วว่าขั้นต่ำควรใช้ Power Supply 750 วัตต์ แต่มันก็มีกรณีที่ไฟไม่เพียงพอ ถ้าจะให้เกวลินแนะนำจริง ๆ ควรประมาณ 850 วัตต์ขึ้นไปจะดีมาก ๆ เลยค่ะ ก็เรียกว่าหลังจากที่ประกาศวางจำหน่ายในบ้านเราในช่วงแรกไป กลายเป็นการ์ดจอรุ่นที่ได้รับความนิยมจากเกมเมอร์ผู้ที่สนใจเป็นอย่างมาก มันคือการ์ดจอตัวรองท็อปที่มีราคาไม่สูงจนเกินไปแต่แลกมากับประสิทธิภาพที่ถ้าให้เทียบกับรุ่น GeForce RTX 2000 Series การตอบรับยังไม่เท่านี้เลยค่ะ ซึ่งเพื่อนของเกวลินที่สนิทกันเขาตัดสินใจเปลี่ยนการ์ดจอจากเดิมใช้ GeForce GTX TITAN X มาเป็น GeForce RTX 3080 ผลที่ได้ก็คือ “ใช้งานได้ดีกว่าการ์ดตัวเดิมอย่างเห็นได้ชัดเจน” โดยเกมที่เขาเลือกลองทดสอบก็คือ Cyberpunk 2077 เริ่มทดสอบในความละเอียด 1080p ที่ปรับรายละเอียดกราฟฟิกสูงสุดพร้อมเปิดใช้งาน DLSS กับ Ray Tracing พบว่าเฟรมเรตสูงมาก ๆ แล้วจากนั้นลองสตรีมถ่ายทอดสดไปด้วยสามารถทำได้ด้วยเช่นกัน “การ์ดจอตัวท็อปที่เล่นเกมปัจจุบันได้ลื่นไหล แต่ก็สู้อะไรใหม่ ๆ ใน 30 Series ไม่ได้เลย!” จากนั้นก็มีการขยับผลการทดสอบมาเทสในความละเอียด 2K หรือ 1440p แบบปรับรายละเอียดกราฟฟิกสูงสุดพร้อมเปิดใช้งาน DLSS กับ Ray Tracing เฟรมเรตก็ยังอยู่ในระดับที่ดีมาก ๆ แล้วตามมาด้วยการลองสตรีมถ่ายทอดสดบน Youtube ในความละเอียด 1440p/60fps ก็ทำได้ดีแถมยังเหลือ ๆ อีกด้วย บ่งบอกได้เลยว่าการ์ดจอ GeForce RTX 3080 ที่ทาง NVIDIA เครมเอาไว้เลยว่า “มันถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการเล่นเกมในความละเอียด 4K ได้อย่างสบาย ๆ” มันสามารถทำได้ตามที่เขาพูดเอาไว้จริง ๆ ค่ะ ดังนั้นถ้าสเปกภายในเครื่องของเราไม่ว่าจะเป็น CPU หรือ Ram ของเราเป็นตัวท็อป ๆ การ์ดจอรุ่นนี้คุ้มค่าที่คุณจะยอมเสียเงินเป็นอย่างมากค่ะ สรุปแล้ว GeForce RTX 3080 ผู้ใช้งานต้องคำนึกถึงอะไรบ้าง!? เรื่องของราคาก็จัดอยู่ในระดับที่สูงเหมือนกัน แต่ถ้าคุณมีเงินมากพอแล้วอยากจะเล่นเกมแบบลื่นไหลมันก็น่าลงทุน การ์ดจอตัวนี้ก็ยังคงกินไฟสูงเหมือนกัน ดังนั้นต้องคำนวนการจ่ายไฟของ Power Supply กันด้วยนะคะ ถ้าคุณเป็นเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ที่มีสเปกส่วนอื่น ๆ ก็สูงอยู่แล้ว การ์ดจอตัวนี้จัดไป เป็นการ์ดจอที่รองรับการเล่นเกมทั้งความละเอียด 1080p , 1440p และ 4K ได้อย่างสบาย ๆ GeForce RTX 3070 เราพูดถึงการ์ดจอตัวท็อปและรองท็อปของ “GeForce RTX 30 Series” กันไปแล้ว เรามาพูดถึงตัวกลาง ๆ ที่แท้ทรูกันบ้างค่ะ โดยรุ่นนี้มีชื่อว่า “GeForce RTX 3070” สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 18,900 บาทขึ้นไป ( ราคานี้ก็ขึ้นอยู่กับแบรนด์และรุ่นที่วางจำหน่ายด้วย ) โดยทาง NVIDIA เผยว่าการ์ดจอตัวนี้มีประสิทธิภาพที่ดีกว่า GeForce RTX 2080 Ti ที่เป็นตัวท็อปของรุ่นที่แล้ว ความพิเศษของรุ่นนี้คงเป็นเรื่องของราคาที่ดูสมเหตุ สมผลมากจริง ๆ ซึ่งเมื่อพอไปเทียบราคากับรุ่นก่อนที่มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ราว ๆ 37,000 บาทขึ้นไปมันแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเจนเลยค่ะ รุ่นก่อนหน้านี้เราจะเห็นว่าปัญหาเรื่องการกินไฟของ Power Supply พอสมควร แต่ GeForce RTX 3070 จะกินไฟขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณ 650 วัตต์ การเลือกใช้ Power Supply ให้เหมาะสมก็ยังคงเป็นปัจจัยหลักสำคัญอยู่ดีค่ะ ถ้าจะให้แนะนำควรใช้ Power Supply อยู่ที่ประมาณ 850 วัตต์กำลังดีค่ะ แถมการ์ดจอรุ่นนี้ยังใช้ขั้วต่อสายไฟเสริมในรูปแบบ PCle 8 Pin เพียงแค่ 1 ตัวเท่านั้น ตัวการ์ดจอมีขนาดที่ใหญ่พอตัวจะกินพื้นที่อยู่ประมาณ 2 ช่อง ผู้ใช้งานเองก็จำเป็นต้องเคลียร์พื้นที่ของเคสด้วย แล้วถ้าเคสมีขนาดเล็กไปก็อาจจะต้องเปลี่ยนใหม่เพื่อที่เราจะสามารถจัดสายไฟแล้วการระบายความร้อนที่อีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญในการประกอบคอมพิวเตอร์ที่ดีนั่นเองค่ะ มาพูดในเรื่องของประสิทธิภาพในการใช้งานกันหน่อยค่ะ GeForce RTX 3070 เป็นการ์ดจอระดับกลางที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้ในการเล่นเกมได้ทั้งความละเอียด 1080p, 1440p และ 4K ได้เหมือนกัน แต่จะทำได้ขนาดนั้น อุปกรณ์ส่วนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น CPU, Ram และ Mainboard ด้วย เพราะมันจะเป็นแรงขับเคลื่อนเพื่อให้การทำงานของการ์ดจอเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จากผลการทดสอบเกวลินก็พบว่ามันสามารถรันในความละเอียด 1080p กับ 1440p ได้อย่างสบาย ๆ เฟรมเรตที่ได้จากเกมอยู่ที่ 150 - 200fps กันเลยทีเดียว ส่วนเกมที่ใช้ในการรันความละเอียด 4K จะขับเฟรมเรตออกมาได้อยู่ที่ 59 - 65fps ทั้งนี้ก็อยู่ว่าเกมนั้น ๆ กินทรัพยากรมากน้อยแค่ไหน  ถ้าถามถึงความคุ้มค่า GeForce RTX 3070 มันเป็นการ์ดจอระดับกลางที่มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดี ใครที่มีสเปกคอมพิวเตอร์ระดับกลาง ๆ แล้วกำลังมองหาการ์ดจอดี ๆ สักตัวในราคาที่ไม่แรงมากจนเกินไปมันก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่ใช่น้อยเลยค่ะ  สรุปแล้ว GeForce RTX 3070 ผู้ใช้งานต้องคำนึกถึงอะไรบ้าง!? เหมือนทาง NVIDIA เดินเกมถูกมากเพราะมันคือการ์ดจอระดับกลางที่มีราคาจับต้องได้ เป็นการ์ดจอที่กินไฟน้อยกว่า 2 ตัวท็อปก่อนหน้านี้ แต่ยังไงก็ต้องคำนวนการจ่ายไฟของ Power Supply อยู่ดี คนที่ใช้สเปกคอมพิวเตอร์สเปกกลาง ๆ แล้วอยากเปลี่ยนการ์ดจอเพื่อใช้เล่นเกมได้ลื่นขึ้น ตัวนี้ก็เหมาะดี เป็นการ์ดจอที่รองรับการเล่นเกมทั้งความละเอียด 1080p , 1440p และ 4K ได้อย่างลื่นไหล GeForce RTX 3060 Ti มาถึงการ์ดจอตัวสุดท้ายของ “GeForce RTX 30 Series” ที่พึ่งประกาศเปิดตัวไปสด ๆ ร้อน ๆ เลยรุ่นที่มีชื่อว่า “GeForce RTX 3060 Ti” สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 14,900 บาทขึ้นไป ( เหมือนเดิมค่ะ ราคาก็จะอยู่ที่แบรนด์และรุ่นที่วางจำหน่าย ) สำหรับการ์ดจอตัวนี้ยังถือได้ว่าเป็นการ์ดจอระดับกลางที่ถูกปรับสภาพลดลงมาจาก GeForce RTX 3070 เล็กน้อย ทาง NVIDIA ก็ได้ออกมาให้ข้อมูลว่าตัวการ์ดจอรุ่นนี้ออกแบบมาให้เกมเมอร์ทั้งคนที่มีสเปกคอมพิวเตอร์ระดับกลาง ๆ หรือ ระดับที่ต่ำลงมาอีกนิดสามารถเป็นเจ้าของการ์ดจอตระกูล GeForce RTX 30 Series ได้ไม่ยาก สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะมอบประสบการณ์ในการเล่นเกมที่ดีกว่าการ์ดจอรุ่นเก่าของ GeForce RTX ก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน สำหรับ “GeForce RTX 3060 Ti” ถือได้ว่าเป็นการ์ดจอที่กินพลังงานไฟน้อยมาก ๆ เพราะทาง NVIDIA อธิบายเอาไว้ว่า Power Supply ที่เหมาะสมในการใช้งานที่สุดอยู่ที่ประมาณ 600 วัตต์ นั้นหมายความว่าถ้าจะให้ดีผู้ที่ใช้การ์ดจอตัวนี้ต้องเลือก Power Supply อยู่ที่ประมาณ 700 - 800 วัตต์กำลังดีค่ะ เพราะส่วนใหญ่คนที่มีสเปกคอมพิวเตอร์กลาง ๆ ก็คงไม่ได้ตกแต่งอะไรมากก็จะใช้กำลังไฟอยู่ที่ราว ๆ นี้น่าจะเหมาะสมที่สุดแล้ว ส่วนการ์ดจอ “GeForce RTX 3060 Ti” มีการทดสอบออกมาเรียบร้อยแล้วว่าเหมาะกับการใช้งานในการเล่นเกมระดับความละเอียด 1080p กับ 1440p ที่สามารถปรับสุดแล้วเปิดใช้งาน DLSS กับ Ray Tracing เฟรมเรตที่ได้ก็อยู่ในระดับที่เกินคาดเป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้ถ้าเราเผลอเปิดใช้งานเทคโนโลยี RTX เฟรมเรตอาจจะดรอปลงไปบ้างเพราะมันจะรีดประสิทธิภาพการ์ดจอให้ทำงานเกือบ 100% ดังนั้นถ้าเพื่อน ๆ ที่คิดว่าจะซื้อการ์ดจอตัวนี้มาเล่นเกมแบบปรับสุดทุกอย่างแล้วก็เปิด RTX พร้อมกับสตรีมถ่ายทอดสดไปด้วย สิ่งที่เราจะต้องคำนึกถึงก็คือว่า “สเปกภายในเครื่องของเราเพียงพอหรือเปล่า!?” ทั้ง CPU ที่เราใช้งานอยู่เป็นระดับไหน แล้วก็ Ram ที่มีอยู่ภายในเครื่อง แม้ว่าจะติดตั้งเอาไว้ 16 GB. แต่บางทีก็ต้องคำนึกถึงตอนเราเล่นเกม ตอนเปิดโปรแกรมต่าง ๆ เอาไว้ด้วย เพราะปัจจุบัน Ram 16 GB. มันกำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ ไม่งั้นตอนสตรีมถ่ายทอดสดเปิดอาการกระตุกจนคนดูไม่สนุกแน่นอนค่ะ แล้วถ้าถามว่าการ์ดจอ “GeForce RTX 3060 Ti” เหมาะกับเกมเมอร์ประเภทไหน จริง ๆ แล้วมันคล้าย ๆ กับรุ่นก่อนหน้านี้ค่ะ แต่ถ้าเพื่อน ๆ ที่มีสเปกคอมพิวเตอร์ระดับกลาง ๆ CPU ไม่ได้ตัวท็อปอะไรมาก ( หรือเป็นตัวท็อปจากรุ่นก่อน ๆ ) มี Ram อยู่ในตัวเครื่องสัก 16GB. ขึ้นไป แล้วการ์ดจอที่ใช้เป็นรุ่นเก่ามากแล้วรันเกมกราฟฟิกหนัก ๆ ในยุค 2018 - 2020 ที่เฟรมเรตได้ราว ๆ  45 - 50fps แถมกราฟฟิกปรับสุดก็ไม่ได้ แปลว่าเพื่อน ๆ คือหนึ่งในคนที่ควรจะเปลี่ยนการ์ดจอมาสู่ยุคสมัยใหม่ได้แล้วค่ะ แล้วยิ่งเงินในกระเป๋าไม่ได้มากพอที่จะไปเล่นตัว GeForce RTX 3070 หรือตัวรองท็อปอย่าง GeForce RTX 3080 รุ่นนี้ก็ถือว่าเหมาะสำหรับเกมเมอร์สายกระเป๋าแบนแฟนทิ้งได้ไม่ยากเลยค่ะ สรุปแล้ว GeForce RTX 3060 Ti ผู้ใช้งานต้องคำนึกถึงอะไรบ้าง!? เป็นการ์ดจอระดับกลางที่ราคาจับต้องได้เหมาะสำหรับคนที่มีทุนไม่มากนัก การ์ดจอตัวนี้กินไฟน้อยมาก ถ้าซื้อมาแล้วยังไงก็ต้องจัดการระบบไฟฟ้าให้ดีไม่งั้นอาจจะไม่เพียงพอ คนที่ใช้สเปกคอมพิวเตอร์ระดับกลาง ๆ หรือ ต่ำลงมา แล้วใช้การ์ดจอรุ่นเก่าที่รันเกมในช่วง 2 - 3 ปีนี้แบบปรับสุดไม่ได้ มันก็เหมาะที่จะเปลี่ยนมาใช้รุ่นนี้นะ เป็นการ์ดจอที่รองรับในการเล่นเกมทั้งความละเอียด 1080p กับ 1440p ได้สบาย ๆ แต่ระดับ 4K เฟรมเรตอาจจะไม่ได้ดีเท่าที่คาดหวังหนัก ต้องบอกไว้ก่อนนะคะว่าตอนนี้ทาง NVIDIA เตรียมเปิดตัวการ์ดจอรุ่นอื่น ๆ ของตระกูล “GeForce RTX 30 Series” ในปี 2021 เพิ่มเติมอีกด้วยไม่ว่าจะเป็น GeForce RTX 3080 Ti, GeForce RTX 3070 Ti, GeForce RTX 3060 และ GeForce RTX 3050 ใครที่ลังเลว่าจะรอตัวใหม่ ๆ ดีหรือเปล่าอันนี้ก็มาดูกันอีกทีว่าเรื่องของราคา, ความคุ้มค่า และ สเปกภายในเมื่อใช้งานจริง ทดสอบจริงแล้วมันจะเป็นยังไงบ้าง แต่ที่เกวลินทราบมาก็คือมันก็ไม่ได้แตกต่างจากรุ่นก่อนมากเท่าไหร่ แต่มีการเพิ่มความเร็วนิด ๆ หน่อย ๆ ไม่ก็เพิ่ม Ram ความจุให้สูงขึ้นเป็นต้น ก็หวังว่าบทความนี้คงจะช่วยเพื่อน ๆ ที่กำลังคิดว่าจะเปลี่ยนการ์ดจอช่วงนี้ได้ไม่มากก็น้อยค่ะ แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้าสวัสดีค่ะ!
17 Dec 2020
Nvidia เปิดตัว RTX 3060 Ti ในราคา 12,000 บาท เริ่มขาย 21.00 คืนนี้!
หลังจากมีขาวลือออกมามากมายในที่สุดทาง Nvidia ก็ได้ทำการเปิดตัว Geforce RTX 3060 Ti อย่างเป็นทางการแล้ว โดยจุดที่น่าสนใจมีอยู่ด้วยกัน 2 อย่างคือ ตัวการ์ดจะมีราคาที่จับต้องได้เพียงแค่ $399,99 หรือ 12,000 บาทเท่านั้น และจะเริ่มวางจำหน่ายคืนนี้เวลา 21.00 ครับ! ในช่วงที่เกมฟอร์มยักษ์ใหม่รอวางจำหน่ายมากมายไม่ว่าจะเป็น Cyberpunk 2077, Resident Evil Village, Far Cry 6 และอื่นๆ อีกมากมายแบบนี้ เชื่อว่าเหล่า PC เกมเมอร์ น่าจะกำลังสนใจที่จะอัพเกรดการ์ดจอกันอยู่ตอนนี้ ซึ่งเจ้า 3060 Ti นี้ก็มีความแรงเทียบเท่า หรือมากกว่า RTX 2080 Super เลยทีเดียว แถมราคายังไม่แพงจนเกินไปด้วย งานนี้บอกเลยว่าน่าสนใจสุดๆ ครับ Geforce RTX 3060 Ti จะวางจำหน่ายคืนนี้เวลา 21.00 ตามเวลาบ้านเราครับ Credit: GamingBolt
02 Dec 2020
Gigabyte เผยรหัสการ์ดจอใหม่ 4 ตัวที่คาดว่าจะเป็น RTX 3060Ti
RTX ซีรีส์ 30 วางจำหน่ายมาได้สักพักแล้วกับตัว 3080 และ 3090 โดยต้องบอกเลยว่าประสิทธิภาพของการ์ดจอเจนเนอร์เรชั่นนี้เมื่อเทียบกับราคาแล้ว เป็นอะไรที่ดูคุ้มค่ากับการเปลี่ยนมาใช้มาก อย่างไรก็ตามสำหรับเกมเมอร์บางคนอาจไม่ต้องการใช้การ์ดจอที่มีราคาสูงขนาด 3080 หรือ 3090 กำลังรอการมาของ 3070 กับ 3060 อยู่ แต่เหมือนว่าล่าสุด อาจมีอีก 1 ตัวเลือกมาให้เพื่อนได้ซื้อกันครับ! Gigabyte ได้เผยรหัสสินค้าการ์ดจอตัวใหม่ 4 ตัว คือ GV-N306TAORUS M-8GD GV-N306TGAMING OC-8GD GV-N306TEAGLE OC-8GD GV-N306TEAGLE-8GD โดยจุดที่น่าสนใจก็คือรหัสทั้ง 4 ตัว นั้นมีคำว่า "N306T" อยู่ทั้งหมด แถมทุกตัวยังเป็นรุ่นที่มีแรมสูงถึง 8GB ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงที่ ทั้ง 4 ตัวจะเป็น RTX 3060Ti อย่างไรก็ตามในข่าวก่อนหน้านี้ที่เป็นรูปภาพจาก Galax ไม่ได้มีการ์ดจอ 3060Ti หรือรหัสที่ใกล้เคียงถูกโชว์ออกมาด้วย ดังนั้นคิดว่ายังมีความเป็นไปได้ที่นี้จะเป็นเรื่องเข้าใจผิดเช่นกันครับ  
02 Oct 2020